วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Service : ล้างรถจักรยานแบบละเอียด


ล้างจักรยานแบบบ้านๆ ง่ายๆ ไม่ต้องจ้างพริตตี



คนเรายังต้องอาบน้ำทุกวัน จักรยานก็เช่นกัน ใช้ไปนานๆ ก็มีคราบฝุ่นหมักหมม โดยเฉพาะบริเวณโซ่เฟือง  รถสกปรกไม่น่าดู ปั่นก็ไม่ลื่นไหล เมื่อถึงเวลาก็ควรจะทำความสะอาดบ้าง  การจะล้างทำความสะอาดจักรยานให้เนี้ยบ เงาวิ้งเหมือนรถใหม่ จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากจนต้องเดินหนี  รถของเรา ปั่นเอง เลอะเอง ก็ควรทำความสะอาดด้วยตัวเอง จะได้ตรวจสอบอะไหล่ที่สึกหรอ แล้วปรับจูนเบรกเกียร์ให้ลื่นไหลเหมือนรถใหม่

วันนี้ขอนำเสนอวิธีการล้างรถถีบแบบบ้านๆ ใช้อุปกรณ์แบบพื้นๆ แต่ผลงานออกมาไม่แพ้รถโปร

อุปกรณ์ที่ต้องใช้


อุปกรณ์ที่ต้องใช้

1. ถังน้ำ
2. ฟองน้ำ (ผมใช้ฟองน้ำสำหรับล้างจาน อันเล็กจับถนัดมือ ล้างจักรยานสะดวก และฟองน้ำเก่าๆ อีกอันสำหรับล้างจุดที่เลอะคราบน้ำมัน)
3. แปรงสำหรับขัดยาง
4. แชมพูล้างรถ
5. แปรงสีฟันเก่า (ไว้สำหรับขัดโซ่ เฟือง)
6. แปรงขัดเฟือง (ถ้าไม่มีก็ใช้ข้อ 5.)
7. น้ำมันซักแห้ง (ใช้น้ำมันก้าดแทนได้ แต่กลิ่นจะฉุนกว่า)
8. คีมถอดโซ่ (ในกรณีที่โซ่เส้นนั้นมีข้อต่อปลดไว-- Quick Link อยู่แล้ว)
9. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ พร้อมฟองน้ำกำมะหยี่สำหรับเคลือบสี
10. น้ำยาเคลือบหนังและยางรถยนต์ พร้อมฟองน้ำ
11. น้ำมันหยอดโซ่
12. ผ้าขี้ริ้วสำหรับเช็คราวน้ำมันที่เฟือง และโซ่
13. ผ้าสำหรับเช็ดรถและเช็ดน้ำยาเคลือบสี

วิธีการล้างรถ

1.เตรียมรถจักรยาน ถอดกระเป๋า ไฟหน้า-หลัง ไมล์วัดความเร็ว และอุปกรณ์ไฟฟ้าออกให้หมด หากใช้เบาะหนังก็คลุมผ้ากันน้ำไว้ จากนั้นก็ฉีดน้ำเบาๆ ไล่จากด้านบนลงมา หลักอาน ท่อบน แฮนด์ ท่อล่าง ซีทสเตย์ เชนสเตย์ แล้วฉีดไล่เศษดินที่ติดล้อ ใต้บังโคลน และฟันเฟืองทั้งหมด
Note : เวลาฉีดน้ำ จุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือบริเวณถ้วยคอ และดุมล้อหน้าหลัง ผมจะฉีดเบาๆ แค่ให้น้ำไหลผ่าน

เตรียมจักรยาน ถอดอุปกรณ์ไฟฟ้าออก และคลุมเบาะให้เรียบร้อย


2.เริ่มล้างรถด้วยการล้างโซ่และเฟืองก่อน โดยการใช้คีมปลดโซ่แยกออกมาล้างต่างห่าง (วิธีการล้างโซ่โดยละเอียด ดูที่นี่) จากนั้นเทน้ำมันซักแห้งลงในถ้วยเล็กๆ แล้วใช้แปรงสีฟันเก่าจุ่มพอหมาดๆ เอาไปขัดที่ฟันจานหน้าให้ครบทุกซี่ ทั้งด้านนอก-ใน จนครบทั้งสามใบ จากนั้นใช้แปรงขัดเฟือง จุ่มน้ำมันซักแห้งไปขัดเฟืองหลังไล่ไปจนครบทุกชั้น แล้วใช้น้ำฉีดไล่คราบน้ำมันออก
Note : นักปั่นส่วนใหญ่มักจะล้างโซ่เฟืองทีหลัง เวลาขัดเฟืองน้ำมันจะกระเด็นไปทั่ว ทำให้ต้องล้างรถซ้ำอีกรอบ ผมจึงล้างส่วนนี้ก่อน
ข้อควรระวัง อย่าให้น้ำมันกระเด็นไปโดนใบดิสก์ จะทำให้ผ้าเบรกด้าน เวลาเบรกจะหอนเสียงดัง


เริ่มจากถอดโซ่ ออกมาล้างต่างหาก


ขัดเฟืองที่จานหน้าให้เกลี้ยง


ขัดเฟืองหลังให้เกลี้ยง


3.ลงแชมพู ฉีดน้ำเบาๆ อีกครั้งให้รถเปียก ผสมแชมพูลงในถังน้ำ ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยามาชโลมรถไล่จากด้านบนลงล่างหรือจากส่วนที่สะอาดที่สุดลงมา จากนั้นใช้ฟองน้ำเก่าๆ อีกอันจุ่มน้ำยาล้างส่วนที่เลอะคราบน้ำมัน  เสร็จแล้วใช้แปรงจุ่มน้ำยาขัดยางทั้งแก้มยางและหน้ายางจนครบทั้งสองเส้น แล้วใช้น้ำฉีดล้างคราบแชมพูออกให้หมด

ฉีดน้ำแล้วตามด้วยแชมพูให้ทั่วทั้งคัน


4.เช็ดคราบน้ำออก ใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบน้ำออกให้แห้ง ไล่จากด้านบนลงมา หลักอาน แฮนด์ มือเบรก เฟรม ตะเกียบ แร็คหน้า-หลัง ล้อหน้า-หลัง ดุม ซี่ลวด ขอบล้อ ยาง แล้วจับรถขย่มกับพื้นเบาๆ ให้หยาดน้ำที่ค้างอยู่ออกให้หมด แล้วเช็ดซ้ำอีกครั้ง จากนั้นใช้ผ้าขี้ริ้วสะอาดเช็ดจานหน้าและเฟืองหลังให้สะอาด

เช็ดคราบน้ำออกให้เกลี้ยง เฟืองหลังที่ล้างเสร็จแล้ว ขาวสะอาด




5.เคลือบสี เทน้ำยาเคลือบสีใส่ฟองน้ำ ลูบไล้ให้ทั่วส่วนที่เป็นโลหะจนหมดทั้งคัน ไล่จากหลักอาน เฟรม สเต็ม มือเบรก ตะเกียบ ซีทสเตย์ เชนสเตย์ แร็คหน้า-หลัง บังโคลน วนให้เป็นวงกลมจนขึ้นคราบฝ้าสีขาว ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง
Note : การเคลือบสีรถบ่อยๆ จะช่วยให้สีรถดูสวยแวววาว เงาฉ่ำ ลูบไล้ลื่นมือต่างจากรถที่ไม่ได้เคลือบสีอย่างสัมผัสได้  อีกทั้งยังช่วยลดการสะสมของฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ และช่วยให้สีสวยคงทน

คลือบสี ส่วนที่เป็นโลหะและวัสดุมันแวว ให้หมดทั้งคัน



6.ขัดสี ใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบน้ำยาเคลือบสีออกให้หมด ไล่จากด้านบนลงล่างเหมือนเดิม

ใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำยาเคลือบสีออกให้หมด 


7.เคลือบส่วนที่เป็นหนังและยาง ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาเคลือบยางลูบบริเวณอาน ผ้าพันแฮนด์ ฮูดเบรก สายเบรก-เกียร์ เสร็จแล้วตรวจเช็คสภาพยาง แงะเศษหินที่ติดร่องยางออก แล้วใช้น้ำยาเช็ดให้ทั่ว

ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาเคลือยหนังและยาง ทาให้ทั่วส่วนที่เป็นหนัง ยาง พลาสติก และยางหน้า-หลัง



8.ฉีดน้ำมันอเนกประสงค์ไล่ความชื้นและป้องกันสนิมในท่อเฟรม โดยเฉพาะบริเวณด้านหลังท่อนั่งที่มีรอยผ่าสำหรับเสียหลักอาน ที่ตะเกียบหน้า และที่ซีทสเตย์ด้านหลัง

ฉีดน้ำมันอเนกประสงค์ที่จุดยึดหลักอาน

ฉีดน้ำมันบริเวณตะเกียบ

ฉีดน้ำมันบริเวณซีทสเตย์ด้านหลัง

9. หยอดน้ำมันโซ่ จูนเบรก-เกียร์ นำโซ่ที่ทำความสะอาดแล้วใส่กลับเข้าที่ ปรับเกียร์ไปที่ 1x1 แล้วเริ่มหยอดน้ำมันโดยเริ่มบริเวณข้อต่อปลดไวจนหมดทุกข้อ แล้วเปลี่ยนเกียร์ไล่จนครบ ระหว่างนี้ก็ตรวจสอบเกียร์ ปรับแต่งจนลื่นไหล แม่นยำ เสร็จแล้วตรวจสอบระยะเบรกและผ้าเบรก จูนจนได้ระยะที่พอใจ สุดท้ายตรวจสอบจุดยึดต่างๆ น้อตยึดตะแกรง น้อตรัดหลักอาน น้อตสเต็มจนครบทุกตัว สูบลมหน้าหลังเสร็จก็เรียบร้อย

หยอดน้ำมันโซ่ เริ่มจากข้อต้อปลดไว


การล้างจักรยาน อุปกรณ์ที่ใช้เหมือนจะเยอะ ขั้นตอนเหมือนจะมาก แต่พอลงมือทำจริงๆ ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เปิดเพลงโปรดฟังสักแผ่นสองแผ่นก็เสร็จ เบียร์ที่แช่ไว้ก็เย็นได้ที่พอดี ล้าง เช็ด เคลือบสี หยอดโซ่ จูนเบรกเกียร์เสร็จ ได้รถถีบคันใหม่กลับมาอีกครั้ง พร้อมเบียร์เย็นๆ เป็นรางวัลอีกแก้ว...อาห์ ชื่นใจ

เสร็จแล้วก็จะได้รถจักรยานคันใหม่กลับมาอีกครั้ง


หมายเหตุ : บทความนี้จะเน้นเฉพาะการทำความสะอาดจักรยานโดยรวม ส่วนวิธีการทำความสะอาดโซ่มีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกพอสมควร จึงขอแยกไปเป็นอีกบทความ (ดูที่นี่ คลิก)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น