![]() |
ล้างจักรยานแบบบ้านๆ ง่ายๆ ไม่ต้องจ้างพริตตี |
คนเรายังต้องอาบน้ำทุกวัน จักรยานก็เช่นกัน ใช้ไปนานๆ ก็มีคราบฝุ่นหมักหมม โดยเฉพาะบริเวณโซ่เฟือง รถสกปรกไม่น่าดู ปั่นก็ไม่ลื่นไหล เมื่อถึงเวลาก็ควรจะทำความสะอาดบ้าง การจะล้างทำความสะอาดจักรยานให้เนี้ยบ เงาวิ้งเหมือนรถใหม่ จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากจนต้องเดินหนี รถของเรา ปั่นเอง เลอะเอง ก็ควรทำความสะอาดด้วยตัวเอง จะได้ตรวจสอบอะไหล่ที่สึกหรอ แล้วปรับจูนเบรกเกียร์ให้ลื่นไหลเหมือนรถใหม่
วันนี้ขอนำเสนอวิธีการล้างรถถีบแบบบ้านๆ ใช้อุปกรณ์แบบพื้นๆ แต่ผลงานออกมาไม่แพ้รถโปร
![]() |
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ |
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1. ถังน้ำ
2. ฟองน้ำ (ผมใช้ฟองน้ำสำหรับล้างจาน อันเล็กจับถนัดมือ ล้างจักรยานสะดวก และฟองน้ำเก่าๆ อีกอันสำหรับล้างจุดที่เลอะคราบน้ำมัน)
3. แปรงสำหรับขัดยาง
4. แชมพูล้างรถ
5. แปรงสีฟันเก่า (ไว้สำหรับขัดโซ่ เฟือง)
6. แปรงขัดเฟือง (ถ้าไม่มีก็ใช้ข้อ 5.)
7. น้ำมันซักแห้ง (ใช้น้ำมันก้าดแทนได้ แต่กลิ่นจะฉุนกว่า)
8. คีมถอดโซ่ (ในกรณีที่โซ่เส้นนั้นมีข้อต่อปลดไว-- Quick Link อยู่แล้ว)
9. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ พร้อมฟองน้ำกำมะหยี่สำหรับเคลือบสี
10. น้ำยาเคลือบหนังและยางรถยนต์ พร้อมฟองน้ำ
11. น้ำมันหยอดโซ่
12. ผ้าขี้ริ้วสำหรับเช็คราวน้ำมันที่เฟือง และโซ่
13. ผ้าสำหรับเช็ดรถและเช็ดน้ำยาเคลือบสี
วิธีการล้างรถ
1.เตรียมรถจักรยาน ถอดกระเป๋า ไฟหน้า-หลัง ไมล์วัดความเร็ว และอุปกรณ์ไฟฟ้าออกให้หมด หากใช้เบาะหนังก็คลุมผ้ากันน้ำไว้ จากนั้นก็ฉีดน้ำเบาๆ ไล่จากด้านบนลงมา หลักอาน ท่อบน แฮนด์ ท่อล่าง ซีทสเตย์ เชนสเตย์ แล้วฉีดไล่เศษดินที่ติดล้อ ใต้บังโคลน และฟันเฟืองทั้งหมด
Note : เวลาฉีดน้ำ จุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือบริเวณถ้วยคอ และดุมล้อหน้าหลัง ผมจะฉีดเบาๆ แค่ให้น้ำไหลผ่าน
![]() |
เตรียมจักรยาน ถอดอุปกรณ์ไฟฟ้าออก และคลุมเบาะให้เรียบร้อย |
Note : นักปั่นส่วนใหญ่มักจะล้างโซ่เฟืองทีหลัง เวลาขัดเฟืองน้ำมันจะกระเด็นไปทั่ว ทำให้ต้องล้างรถซ้ำอีกรอบ ผมจึงล้างส่วนนี้ก่อน
ข้อควรระวัง อย่าให้น้ำมันกระเด็นไปโดนใบดิสก์ จะทำให้ผ้าเบรกด้าน เวลาเบรกจะหอนเสียงดัง
![]() |
เริ่มจากถอดโซ่ ออกมาล้างต่างหาก |
![]() |
ขัดเฟืองที่จานหน้าให้เกลี้ยง |
![]() |
ขัดเฟืองหลังให้เกลี้ยง |
3.ลงแชมพู ฉีดน้ำเบาๆ อีกครั้งให้รถเปียก ผสมแชมพูลงในถังน้ำ ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยามาชโลมรถไล่จากด้านบนลงล่างหรือจากส่วนที่สะอาดที่สุดลงมา จากนั้นใช้ฟองน้ำเก่าๆ อีกอันจุ่มน้ำยาล้างส่วนที่เลอะคราบน้ำมัน เสร็จแล้วใช้แปรงจุ่มน้ำยาขัดยางทั้งแก้มยางและหน้ายางจนครบทั้งสองเส้น แล้วใช้น้ำฉีดล้างคราบแชมพูออกให้หมด
![]() |
ฉีดน้ำแล้วตามด้วยแชมพูให้ทั่วทั้งคัน |
4.เช็ดคราบน้ำออก ใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบน้ำออกให้แห้ง ไล่จากด้านบนลงมา หลักอาน แฮนด์ มือเบรก เฟรม ตะเกียบ แร็คหน้า-หลัง ล้อหน้า-หลัง ดุม ซี่ลวด ขอบล้อ ยาง แล้วจับรถขย่มกับพื้นเบาๆ ให้หยาดน้ำที่ค้างอยู่ออกให้หมด แล้วเช็ดซ้ำอีกครั้ง จากนั้นใช้ผ้าขี้ริ้วสะอาดเช็ดจานหน้าและเฟืองหลังให้สะอาด
![]() |
เช็ดคราบน้ำออกให้เกลี้ยง เฟืองหลังที่ล้างเสร็จแล้ว ขาวสะอาด |
5.เคลือบสี เทน้ำยาเคลือบสีใส่ฟองน้ำ ลูบไล้ให้ทั่วส่วนที่เป็นโลหะจนหมดทั้งคัน ไล่จากหลักอาน เฟรม สเต็ม มือเบรก ตะเกียบ ซีทสเตย์ เชนสเตย์ แร็คหน้า-หลัง บังโคลน วนให้เป็นวงกลมจนขึ้นคราบฝ้าสีขาว ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง
Note : การเคลือบสีรถบ่อยๆ จะช่วยให้สีรถดูสวยแวววาว เงาฉ่ำ ลูบไล้ลื่นมือต่างจากรถที่ไม่ได้เคลือบสีอย่างสัมผัสได้ อีกทั้งยังช่วยลดการสะสมของฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ และช่วยให้สีสวยคงทน
![]() |
คลือบสี ส่วนที่เป็นโลหะและวัสดุมันแวว ให้หมดทั้งคัน |
6.ขัดสี ใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบน้ำยาเคลือบสีออกให้หมด ไล่จากด้านบนลงล่างเหมือนเดิม
![]() |
ใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำยาเคลือบสีออกให้หมด |
7.เคลือบส่วนที่เป็นหนังและยาง ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาเคลือบยางลูบบริเวณอาน ผ้าพันแฮนด์ ฮูดเบรก สายเบรก-เกียร์ เสร็จแล้วตรวจเช็คสภาพยาง แงะเศษหินที่ติดร่องยางออก แล้วใช้น้ำยาเช็ดให้ทั่ว
![]() |
ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาเคลือยหนังและยาง ทาให้ทั่วส่วนที่เป็นหนัง ยาง พลาสติก และยางหน้า-หลัง |
8.ฉีดน้ำมันอเนกประสงค์ไล่ความชื้นและป้องกันสนิมในท่อเฟรม โดยเฉพาะบริเวณด้านหลังท่อนั่งที่มีรอยผ่าสำหรับเสียหลักอาน ที่ตะเกียบหน้า และที่ซีทสเตย์ด้านหลัง
![]() |
ฉีดน้ำมันอเนกประสงค์ที่จุดยึดหลักอาน |
![]() |
ฉีดน้ำมันบริเวณตะเกียบ |
![]() |
ฉีดน้ำมันบริเวณซีทสเตย์ด้านหลัง |
9. หยอดน้ำมันโซ่ จูนเบรก-เกียร์ นำโซ่ที่ทำความสะอาดแล้วใส่กลับเข้าที่ ปรับเกียร์ไปที่ 1x1 แล้วเริ่มหยอดน้ำมันโดยเริ่มบริเวณข้อต่อปลดไวจนหมดทุกข้อ แล้วเปลี่ยนเกียร์ไล่จนครบ ระหว่างนี้ก็ตรวจสอบเกียร์ ปรับแต่งจนลื่นไหล แม่นยำ เสร็จแล้วตรวจสอบระยะเบรกและผ้าเบรก จูนจนได้ระยะที่พอใจ สุดท้ายตรวจสอบจุดยึดต่างๆ น้อตยึดตะแกรง น้อตรัดหลักอาน น้อตสเต็มจนครบทุกตัว สูบลมหน้าหลังเสร็จก็เรียบร้อย
![]() |
หยอดน้ำมันโซ่ เริ่มจากข้อต้อปลดไว |
การล้างจักรยาน อุปกรณ์ที่ใช้เหมือนจะเยอะ ขั้นตอนเหมือนจะมาก แต่พอลงมือทำจริงๆ ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เปิดเพลงโปรดฟังสักแผ่นสองแผ่นก็เสร็จ เบียร์ที่แช่ไว้ก็เย็นได้ที่พอดี ล้าง เช็ด เคลือบสี หยอดโซ่ จูนเบรกเกียร์เสร็จ ได้รถถีบคันใหม่กลับมาอีกครั้ง พร้อมเบียร์เย็นๆ เป็นรางวัลอีกแก้ว...อาห์ ชื่นใจ
![]() |
เสร็จแล้วก็จะได้รถจักรยานคันใหม่กลับมาอีกครั้ง |
หมายเหตุ : บทความนี้จะเน้นเฉพาะการทำความสะอาดจักรยานโดยรวม ส่วนวิธีการทำความสะอาดโซ่มีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกพอสมควร จึงขอแยกไปเป็นอีกบทความ (ดูที่นี่ คลิก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น