![]() |
ทางหลวงหมายเลข 1009 ระหว่างทางขึ้นดอยอินทนนท์ |
เมื่อคืนหนาวมากจนแทบจะนอนไม่หลับ ทีมเสือหมอบที่มาพักเกสต์เฮาส์ออกเดินทางตั้งแต่ตีสี่เพื่อเตรียมตัวไปปั่นขึ้นดอยอินทนนท์ ส่วนพวกเราแก๊งค์รถทัวร์ตื่นหกโมงกว่า เก็บของเสร็จพี่แท็ปชวนกินข้าวต้มอีก กว่าจะออกเดินทางได้ก็เกือบแปดโมง
![]() |
เตรียมตัวออกเดินทาง ที่โอบอุ่น โฮมสเตย์ |
ออกจากโอบอุ่น โฮมสเตย์ก็ปั่นมาทางถนนเลียบคลองชลประทานหมายเลข 121 ผมปั่นรถทัวร์ Rit บรรทุกของแบบฟูลโหลดคือมีทั้งกระเป๋าคู่หน้าและหลัง ด้านหน้าใส่เสบียงและอุปกรณ์ครัว คู่หลังใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์แคมปิ้ง ทั่นนิวปั่นเสือภูเขา Specialized Hardrock Sport (2012) สีดำด้าน ติดตะแกรงหลังแขวนกระเป๋าที่ทำจุดยึดเอง เขาทำงานประจำอยู่ที่กรุงเทพฯ ปั่นจักรยานไปทำงานเกือบทุกวัน วันละเกือบยี่สิบกิโลฯ ผมบอกล่วงหน้าไว้แล้วว่าทริปนี้โหดหิน ก็เลยไปซ้อมขาขึ้นสะพานสูงๆ มาบ้าง แรงไม่รู้แต่ใจน่ะสู้ กับชุดเกียร์ติดรถ 8 สปีด ทดสุดแค่ 22 x 30 ผมกลัวว่าจะเข็นตั้งแต่ตีนดอยน่ะสิ ของผม 9 สปีด ทดที่ 22 x 34 ยังมีเสียว (แต่ก็ซ้อมเข็นเตรียมไว้แล้ว) เดี๋ยวก็รู้ อิอิ
ปั่นรถเปล่าๆ มาหลายเดือน นี่เป็นทริปฟูลโหลดครั้งแรกของเจ้า Rit ด้วยคุณสมบัติของเฟรมโครโมลี จึงให้ความนุ่มนวล เก็บรายละเอียดถนนผิขรุขระได้ดีกว่าเฟรมอลูมิเนียมของเสือภูเขาคันเก่าอย่างสัมผัสได้ ตั้งแต่ปั่นครั้งแรกๆ ก็พบว่าเป็นรถที่ปั่นพุ่ง ส่งกำลังได้ดี แต่ก็นุ่มนวล ปั่นสบาย ตอนรถเปล่าๆ ว่าปั่นสนุกแล้ว ยิ่งพอได้บรรทุกสัมภาระหน้าหลังเต็มๆ รู้สึกว่ารถยิ่งเกาะถนน ปั่นได้นิ่ง เสถียรขึ้นกว่าเดิมมาก รักษาความเร็วและรอบขาได้ดีอย่างที่เขาเรียกว่าลื่นไหล ปั่นสนุกกว่ารถเปล่าเสียอีก รถทัวร์มันเกิดมาเพื่อบรรทุกหนักถึงจะปั่นมันอย่างที่เขาว่าจริงๆ
อากาศยามเช้าเย็นสบาย แดดอุ่น ปั่นเพลิน ถนนสภาพดีไหล่ทางกว้าง วันนี้วันอาทิตย์รถไม่เยอะมาก เราเลี้ยงความเร็วไว้ที่ยี่สิบกลางๆ พยายามปรับรอบขาให้ไปด้วยกันได้ สักพักก็ผ่านตลาดสดแม่เหียะ ผ่านแยกต้นแกว๋นที่เลี้ยวขวาไปสะเมิง เราปั่นตรงไปทางถนนเลียบคลองชลประทาน สายเลี่ยงเมืองสันป่าตอง-หางดง จากถนนสี่เลนคร่อมคลองชลฯ กลายเป็นถนนสองเลนวิ่งทางฝั่งซ้ายคลองชลฯ แต่ไหล่ทางก็กว้าง ปั่นจักรยานสบาย
ราวเก้าโมงกว่าเรามาถึงสามแยกตัดกับสาย ชม.5036 ผมจำได้ชัดเจนว่าเมื่อก่อนหากจะไปจอมทอง ถนนเลียบคลองชลฯ จะมาเลี้ยวซ้ายตรงนี้เพื่อหักเข้าสาย 108 แต่คราวนี้มีถนนตัดใหม่สาย ชม. 3035 ตัดตรงเลี่ยงเมืองไปเข้าสาย 108 ที่เขต อ.ดอยหล่อ ถนนสี่เลนสภาพใหม่ ไหล่ทางมีป้ายไบค์เลน ข้างทางเป็นทุ่งนาและสวนลำไย สักพักก็ปั่นลงอุโมงค์ลอดใต้ถนนสาย 1013 สันป่าตอง-แม่วาง มาอีกสักพักใหญ่ๆ ก็ตัดเข้าสาย 108 เราเลี้ยวขวาตรงไปทางจอมทอง
![]() |
"ไม้ก๊ำสรี" ที่ต้นโพธิ์หน้าอุโบสถวัดพระธาตุศรีจอมทอง |
พอเข้าเขตดอยหล่อก็เริ่มมีเนินยาวๆ ผมปั่นนำขึ้นไปพักรอบนยอดเนิน รอเพื่อนตามมาสมทบ แล้วปล่อยให้เพื่อนนำไป สลับกันไล่กันตามจนถึงจอมทอง แวะที่วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จอดรถเข้าไปเดินเล่นในวัดสักพักก็ออกมาหาเสบียงที่ตลาดสดจอมทองเสร็จแล้วก็ปั่นเลาะเข้าในซอยแวะกินข้าวเที่ยง อิ่มแล้วปั่นมาออกที่ข้างโรงเรียนจอมทองราวบ่ายโมง เลี้ยวซ้ายเข้าสาย 1009 มุ่งหน้าสู่ดอยอินทนนท์
![]() |
แวะพักขาระหว่างทางขึ้นดอยอินทนนท์ |
วันนี้เมืองจอมทองคึกคักไปด้วยนักปั่นจากทั่วประเทศที่ร่วมงาน "ปั่นจักรยานพิชิตดอยอินทนนท์" ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 8 มียอดลงทะเบียนราว 2,300 คัน ระหว่างทางขึ้นดอยเราสวนกับนักปั่นและรถยนต์บรรทุกจักรยานอยู่ตลอดทาง การแข่งขันเริ่มตั้งแต่เช้า แต่เรามาถึงตอนบ่าย ยามที่นักปั่นกำลังลงดอยกันพอดี
เราปั่นตามกันมาเรื่อยๆ ผ่านทางแยกไปน้ำตกแม่กลาง สักพักก็ถึงด่านตรวจจุดที่ 1 กม. 8 จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ เรียบร้อยก็นั่งพักขากินน้ำ ออกปั่นต่อผ่านด่านมาสักหน่อยถนนก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ขาลงยังคงมีนักปั่นไหลลงมาตลอด พอเงยหน้าเห็นกันต่างฝ่ายก็โบกไม้โบกมือให้กำลังใจกัน ในยามนี้จะมีอะไรดีกว่ากำลังใจ แล้วจะมีใครเข้าใจจักรยานยิ่งกว่านักปั่นด้วยกัน
รถหนัก สัมภาระรุงรัง โค้งดอยก็ชัน แดดก็ร้อน พยายามทดเกียร์เบาๆ ปั่นไหลขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่บี้อัดฝืนกล้ามเนื้อจนเกินไป พอถึงยอดเนินก็แวะพักขาจิบน้ำรอเพื่อน ปั่นพักๆ มาเรื่อยๆ ตั้งใจไว้แล้วว่าจะสู้ให้ถึงที่สุด ถ้าไม่หมดจริงๆ ก็จะไม่ลงเข็น
![]() |
แวะพักขาที่หน้าสถานีควบคุมไฟป้าดอยอินทนนท์ กม.21 |
ราวสี่โมงเย็นก็มาถึงสถานีควบคุมไฟป่าดอยอินทนนท์ (กม.21) แวะร้านกาแฟ พักขาจิบโกโก้เย็นพลางรำลึกถึงความหลัง หลายปีก่อนสมัยเรียนจบใหม่ๆ เคยปั่นเสือภูเขาคันเก่าขึ้นดอยอินท์ ตอนนั้นรถก็ธรรมดา สัมภาระก็มีแค่กระเป๋าคู่หลัง ร่างกายก็ยังฟิตกว่านี้ แต่ช่วงสามกิโลก่อนถึงจุดนี้จำได้ว่าเข็นกระจุยกระจาย เพราะโยกตัวอัดขึ้นมาตั้งแต่ตีนดอย ไม่รู้จักผ่อน ไม่รู้จักไหล มาคราวนี้ประสบการณ์สอนให้ใช้เกียร์ให้สุด ทีละเกียร์ๆ ค่อยๆ ขึ้นมาทีละเนินๆ พอหมดแรงก็ค่อยพัก จนปั่นขึ้นมาถึง
จาก กม. 21 สาวร้านกาแฟบอกว่าอีกสิบกิโลจะถึงที่ทำการอุทยานฯ ดอยไม่ชันแล้ว เราดีใจรีบอัดขึ้นมา พอลับโค้งมาสักหน่อยก็เจอทางชันๆ ยาวให้แทบถอดใจ กัดฟันอัดขึ้นมาเรื่อยๆ มีช่วงชันๆ ยาวๆ อีกหลายเนิน โดยเฉพาะช่วง กม. 27 -29 ทั่นนิวหมดแรง ต้องยอมลงเข็น ผมอัดไหลขึ้นมารอข้างบน นั่งรอบนรั้วกั้นถนนชมทิวทัศน์ป่าสนสามใบบนยอดดอย แสงทองยามเย็นส่องผ่านยอดสน สวยงามมาก รู้สึกปลื้มปิติอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกราวกับว่า เป็นรางวัลที่ธรรมชาติแอบซ่อนไว้กำลังใจคนเดินทาง
![]() |
แสงทองส่องต้องยอดสนสามใบริมทางขึ้นดอยอินทนนท์ |
มาถึงที่ทำการอุทยานฯ เกือบสองทุ่ม เข้าไปติดต่อจ่ายค่าธรรมเนียมกางเต็นท์ เช่าแผ่นรองนอนมาคนละชุด แล้วปั่นกลับมาที่จุดกางเต็นท์สวนสน ระหว่างทางแวะร้านอาหาร สั่งลาบเมือง ส้า แกงอ่อม ข้าวนึ่งร้อนๆ แม้ทั่นนิวชาวจะคุ้นชินกับอาหารกรุงเทพๆ มาตลอดชีวิต พอได้ลองอาหารเมืองรสชาติจัดจ้านก็ยังติดใจ ยิ่งได้เบียร์เย็นๆ ยิ่งสุดยอด วันนี้เหนื่อยสุดๆ แต่มื้อเย็นก็ "ลำแต๊ลำว่า"
ไปถึงลานกางเต็นท์สวนสนสามทุ่มกว่า คืนนี้นักท่องเที่ยวเบาบาง เราเลือกใกล้ๆ ห้องน้ำ กางชิดริมรั้วต้นไม้เพื่อบังลม ให้ทั่นนิวกางเปลสยามเป็นเต็นท์อยู่ด้านใน ผมกางเต็นท์อยู่ด้านนอก อาบน้ำเย็นๆ ซักผ้ากลับเข้าเต็นท์นอน อากาศหนาวมากแต่ได้แผ่นรองนอนตราป่าไม้มาช่วยชีวิต คืนนี้จะเอาอยู่หรือไม่ พรุ่งนี้ได้รู้กัน
วันนี้ได้ระยะทาง 94 กม. Av 16.7 Mx 51 Tm 5.39 ร่างกายเริ่มสะบักสะบอม แต่ใจยังเต็มปริ่ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น