![]() |
หมู่บ้านกระเหรี่ยงด้านหลังสำนักสงฆ์เขาวงพระจันทร์ |
เก็บของเสร็จเข้าไปลาหลวงพี่ ออกเดินทางราวเก้าโมง แดดเช้าอาบหมู่บ้านกะเหรี่ยง หอมกลิ่นดินปนลอมฟางอุ่นๆ และกลิ่นสาบวัวบางๆ ปั่นออกมาทางหลังวัดกลับสู่ถนนสายหลัก แวะซื้อขนมและน้ำขวดใหญ่ที่ร้านค้าเมื่อวาน
![]() |
ถนนสาย 1288 กำลังปรับปรุง รถสองแถวสาย อุ้มผาง-เปิ่งเคลิ่ง วิ่งฝุ่นตลบ |
ออกปั่นต่อมาตามถนนสาย 1288 อีกสามกิโลก็ถึงหมู่บ้านนุเซะโปล้ พอพ้นเขตหมู่บ้านมาหน่อยก็เริ่มขึ้นเนินพอให้ร่างกายได้วอร์มขา ถนนช่วงนี้สภาพถนนไม่ค่อยดี ผิวยางมะตอยผุพังเป็นหลุมบ่อ บางช่วงกำลังซ่อม รถยนต์วิ่งผ่านทีฝุ่นคลุ้งแทบมองทางไม่เห็น ที่ลุ่มข้างทางเป็นนาข้าว บนไหล่เขาเป็นซากไร่ข้าวโพด ถัดไปก็เป็นป่าทึบ
โชคดีที่พกผ้าบัฟฟ์-ผ้ายืดอเนกประสงค์ทรงกระบอก มาด้วย ตอนนั่งรถก็ใช้คลุมหัวปิดหน้ากันแสงแยงตา ดึกๆ อากาศหนาวก็ใช้แทนหมวกไหมพรม เช้าๆ ก็รูดลงมาเป็นผ้าพันคอ แดดร้อนๆ ก็ดึงขึ้นไปคลุมหัว เหงื่อออกก็ใช้เช็ดหน้า พอเจอฝุ่นก็รูดขึ้นปิดจมูกเป็นนินจา นับเป็นผ้าสารพัดประโยชน์โดยแท้ ทริปนี้ได้ลองใช้เกือบครบทุกฟังก์ชัน
![]() |
ศูนย์อพยพ บ้านนุโพ |
มาถึงบ้านุโพตอนเที่ยง ประสบการณ์สอนว่าอย่าหวังน้ำบ่อหน้า เจอร้านค้าก็รีบแวะกินก๋วยเตี๋ยว หาน้ำและตุนเสบียง ออกปั่นต่อไม่นานก็ถึง "พื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบ บ้านนุโพ" ปั่นขึ้นสะพานก็เห็นเด็กๆ ผู้อพยพ กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุก จอมทะโมนบนสะพานก็แว้นจักรยานมาทักทาย ลูบคลำกำเบรกรถถีบต่างถิ่นกันใหญ่ แม้จะสื่อสารกันได้ไม่มากนัก แต่มิตรภาพจากรอยยิ้มน้อยๆ เหล่านั้นก็ยังหลงเหลือให้ระลึกถึงเสมอ
![]() |
วัดธรรมะรักขิตะ |
ออกปั่นต่อผ่านหมู่บ้านผู้อพยพ มีวัดสองแห่งสร้างแบบง่ายๆ ฝาไม้ฝาไม้ไผ่หลังคาสังกะสีหลายชั้น ลดหลั่นซับซ้อนแบบศิลปะพม่า พอผ่านย่านชุมชนออกมาก็เริ่มไต่ดอยเข้าป่าทึบ อากาศบ่ายที่อบอ้าวเริ่มเย็นชื้นขึ้นบ้าง ข้างทางมีต้นลูกต๋าว (ลูกชิด) ขึ้นแซมไม้ใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนปั่นจักรยานอยู่กลางป่าดึกดำบรรพ์
![]() |
แวะให้ยืมสูบลม สูบมอเตอร์ไซค์ยางรั่ว |
ระหว่างทางเจอมอเตอร์ไซค์ยางแบนจอดอยู่ข้างทาง เลยแวะจอดรื้อสูบลมให้เขาอัดจนเต็มเพื่อจะได้รีบขับไปหาร้านปะยาง เสร็จแล้วก็ขอบคุณนักปั่นกันใหญ่ มีอะไรก็ต้องช่วยกันละ ยามลำบากอยู่กลางป่าน้ำใจแม้เล็กน้อยก็มีค่าเสมอ
![]() |
สุดเขตตะวันตก จุดผ่อนปรนบ้านห้วยแตน บ้านเปิ่งเคลิ่ง อุ้มผาง |
ราวบ่ายสองก็มาถึงบ้านเปิ่งเคลิ่ง หมู่บ้านสุดท้ายของอุ้มผางที่เชื่อมต่อกับบ้านห้วยแตนของเมียนมาร์ เส้นกั้นเขตแดนเป็นเพียงลำธารเล็กๆ ฝั่งไทยมีฐานปฏิบัติการบ้านห้วยแตนคอยดูแล แวะเข้าไปคุยกับทหารที่เฝ้าฐาน เขาบอกว่าที่นี่เป็นจุดผ่อนปรน เปิดให้ชาวบ้านเดินทางเข้ามาซื้อข้าวของเครื่องใช้ ส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะเป็นชาวเมียนมาร์ที่ขับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และรถอีแต๊กเข้ามาซื้อของกินของใช้กลับเข้าไป เจ้าหน้าที่อกว่า สามารถปั่นเข้าไปได้ แต่ไม่ควรเกินเขตหมู่บ้านนี้
![]() |
ร้านน้ำแข็งไสในเมียนมาร์ |
นับเป็นครั้งแรกของซีซีฟที่ได้ออกนอกประเทศ ถนนลาดยางมาสุดที่ฝั่งไทย พอข้ามมาฝั่งพม่าก็กลายเป็นถนนดิน ร้านค้าตั้งเรียงรายหลายร้าน เท่าที่สังเกตส่วนใหญ่จะเป็นขนม ของใช้พวกสบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ฯลฯ จากไทย และของพม่าบ้างเล็กน้อย มาได้ไม่ไกลก็แวะร้านน้ำแข็งไส ขวดน้ำหวานเฮลส์บลูบอยหลากสีตั้งเรียงรายบนโต๊ะปะปนกับนมข้นหวานและเครื่องเคียงจำพวกลูกชิด ขนมปัง ฯลฯ ถือโอกาสนั่งร่วมโต๊ะกับหนุ่มและพระพม่าอีกรูป นั่งกินน้ำหวานเย็นๆ แกล้มบรรยากาศแปลกหน้า เราสื่อสารกันไม่ได้มากนัก นอกจากรอยยิ้ม
![]() |
บ้านห้วยแตน รัฐคายีน (กะเหรี่ยง) เมียนมาร์ |
กินเสร็จก็ปั่นกลับฝั่งไทย ณ วันนี้เข้าไปได้แค่นั้น บอกตามตรงว่ากลัว ความรู้สึกแปลกหน้าในบ้านตัวเองยังไม่น่ากลัวเท่าความแปลกหน้านอกบ้าน ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่รู้ภาษา ไม่รู้ถนนหนทาง ไม่มีญาติสนิทมิตรสหาย ไม่มีพาสปอร์ตและหลักประกันใดๆ ทั้งสิ้น คราวนี้ยังไม่พร้อม แต่สักวันหนึ่งจะต้องหาโอกาสไปเยือนให้ได้
![]() |
ลานตากหมากแห้งที่บ้านเปิ่งเคลิ่ง ด้านล่างหลบแดดปอกมะพร้าว |
ขากลับถือโอกาสแวะชมบ้านเรือนที่บ้านเปิ่งเคลิ่ง เท่าที่สังเกตเห็นตั้งแต่เข้าหมู่บ้านมีสวนหมากหลายแห่ง ในหมูบ้านก็มีต้นมะพร้าว เงาะ ทุเรียน หรือแม้แต่ลูกเนียง หน้าบ้านหลายหลังมีลานตากหมากแห้ง และโกดังเก็บมะพร้าวกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แสดงว่าภูมิอากาศแถบนี้น่าจะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมคล้ายๆ กับทางปักษ์ใต้บ้านเรา
![]() |
ร้านน้ำด้านหน้าวัดธรรมะรักขิตะ |
ราวๆ สี่โมงเย็นก็กลับมาถึงศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านนุโพ แวะถ่ายรูปวัดพม่า ระหว่างนั้นก็มีชาวพม่าเดินเข้ามาทักทายเป็นภาษาอังกฤษ คุยกันสักพัก เขาบอกว่าเข้ามาอยู่ที่นี่สิบปีแล้ว รอส่งตัวไปประเทศที่สาม แต่ติดปัญหาหลายอย่าง สักพักเราต่างก็อวยพรให้โชคดี แล้วก็ออกปั่นต่อกลับมาทางเดิม ตั้งใจจะกลับไปพักที่บ้านแม่จันที่เดียวกับเมื่อคืน แต่มาถึงบ้านนุเซะโปล้ราวทุ่มกว่าๆ แวะร้านค้าซื้อเสบียง ได้น้ำดื่ม กระหล่ำปลี กระเทียมและโปรตีนเกษตร เห็นว่ามืดแล้ว แม่ค้าเลยแนะนำให้พักที่โรงเรียนข้างหน้า ปั่นขึ้นเนินเข้าไปในโรงเรียน ขออนุญาตครูกางเต็นท์ที่โรงอาหาร แต่ครูใจดีพาขึ้นไปพักที่บ้านพักครูหลังที่ว่างอยู่ เป็นคืนแรกที่ได้นอนในบ้าน มีห้องน้ำในตัว รื้อของออกมาทำกับข้าว ซักผ้าอาบน้ำเสร็จ กางเต็นท์นอนในห้อง อุ่นสบาย เงียบสงบ ได้พักผ่อนเต็มที่
พอหัวถึงหมอน สิ่งตกค้างระหว่างทางก็ผุดขึ้น เราโชคดีที่ไม่ต้องเผชิญภาวะสงครามแบบเพื่อนบ้าน เด็กๆ ไม่ต้องอพยพ หนุ่มสาวไม่ต้องแยกจากคนรัก ผู้เฒ่าไม่ต้องจากบ้านเกิด ไม่ว่ามันจะเกิดจากสาเหตุอะไร สงครามโหดร้ายเสมอ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Dst 91.29 km / Av 14.4 kph / Mx 63 kph / Tm 6.18 h
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น