วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

วันที่ 6 (12/3/16) : บ้านนุเซะโปล้ – บ้านแม่กลองคี

รถสองแถว อุ้มผาง-เปิ่งเคลิ่ง ผู้โดยสารเต็มจนล้นขึ้นไปบนหลังคา

เก็บของออกไปลาครูหนุ่มที่แบ่งปันที่พักให้เมื่อคืนนี้ ปั่นต่อสักพักก็ถึงบ้านแม่จัน แวะซื้อน้ำและขนมแล้วแวะกินข้าวมื้อสายตุนไว้ก่อน เพราะหมู่บ้านถัดไปอยู่อีกไกล

ครูเล่าให้ฟังว่านักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวเขาบ้านอยู่ห่างไกล จึงต้องมาอาศัยพักที่โรงเรียน ซึ่งสร้างหอพักแยกชายหญิง มีครูเวรคอยดูแล ส่วนครูร่วมสิบคนส่วนใหญ่ก็เป็นคนนอกพื้นที่ อาศัยพักที่บ้านพักครูในบริเวณโรงเรียน วันหยุดถึงได้เข้าไปเปิดหูเปิดตาในเมืองอุ้มผางบ้าง

แวะกดเงินที่ตู้ ATM ธกส. ที่เล็งไว้ตั้งแต่ตอนขามา ค่าธรรมเนียมต่างธนาคารและต่างจังหวัด 20 บ. เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้บริการกดเงินข้ามธนาคาร ผ่านตู้ ธกส.  ตอนออกทริปนอกจากต้องวานแผนการเดินทางคร่าวๆ แล้ว การเงินก็ต้องวางแผนเช่นกัน  ด้วยงบที่จำกัด มื้อเช้าส่วนใหญ่จะชงกาแฟแกล้มขนมบ้านๆ เมื่อเที่ยงอุดหนุนร้านอาหารชาวบ้าน ระหว่างทางหากพบเจออาหารหรือขนมแปลกก็จะหาโอกาสชิม เพิ่มประสบการณ์ทางลิ้นไปในตัว  พอตกเย็นมักจะเข้าที่พักมืดเลยต้องหุงข้าวทำกับข้าวกินเอง  ก่อนนอนก็จดบันทึกและทำบัญชีเก็บไว้

สภาพถนนสาย 1288 

ออกจากหมู่บ้านก็เริ่มไต่ดอยขึ้นมาเรื่อยๆ ถึงจุดที่กำลังซ่อมถนน วันนี้กำลังบดอัด ฝุ่นไม่เยอะมากเหมือนคราวก่อน  มาอีกสักพักก็ถึงด่านป่าไม้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางง ทางเข้าน้ำตกทีลอซู  ปั่นผ่านมาถึงหมู่บ้านเจอร้านน้ำแข็งไสในเพิงไม้ก็รีบแวะทันที ปั่นจักรยานใช้กำลังเยอะ ยิ่งเจอดอยชันๆ อากาศร้อนๆ ยิ่งอยากกินของหวานๆ  น้ำแข็งไสสักถ้วย ชื่นใจดีนัก

ออกปั่นต่อมาถึงสามแยกบ้านหนองหลวง แล้วเลี้ยวขวาปั่นขึ้นลงดอยมาอีกสักพักใหญ่ ราวบ่ายสองก็ถึงแยกตัดกับสาย 1090 ขวาไปอุ้มผาง เลี้ยวซ้ายกลับแม่สอด  ระหว่างทางแวะซื้อน้ำและกล้วยน้ำว้าอีกหวี  แถวนี้กล้วยสวยๆ ราคาไม่แพง เห็นแล้วคิดถึงแม่ ถ้าอยู่บ้านคงได้ปาร์ตี้ข้าวต้มมัดกันสนุกสนาน  ระหว่างนั่งกินน้ำพักขาก็มีหนุ่มใหญ่ขับมอเตอร์ไซค์มาจอดแวะคุยด้วย เลยถามทางลัดที่ตัดพม่าไปออกพบพระ เขาบอกว่าต้องเลี้ยวซ้ายไปทางบ้านหนองหลวง น่าเสียดาย เลยมาไกลแล้ว ก็เลยต้องไปทางเดิมต่อ

ร้านก๋วยเตียวป้าเข็ม ครบเครื่องทั้งเรื่องเส้นและตามสั่ง พร้อมของชำครบครัน จุดพักรถสิบล้อบ้านแม่กลองคี

ไหลลงมาถึงบ้านป่าคาใหม่ผ่านสะพานข้ามน้ำแควใหญ่จุดพักแรมเมื่อสองคืนก่อน จากนั้นก็อัดขึ้นดอยชันๆ ขนาดต้องลงเกียร์ 1x1 งัดขึ้นจนเสื้อเปียกโชก เลขไมล์วิ่งอยู่ที่ 5-6 กม./ชม. พอขาลงไหลไปถึง 70 กม./ชม.  มาถึงบ้านแม่กลองคีเกือบสี่โมงเย็น  แวะกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านป้าเข็ม สาวใหญ่ใจดี จุดรวมพลคนขับสิบล้อ ที่กวักมือเรียกกินน้ำเมื่อตอนขามา  บ้านแม่กองน้อยถัดไปอีก 20 กม. แต่พ้นหมู่บ้านไปจะต้องผ่าน “ดอยฟ้า” ช่วงที่ชันยาวที่สุดหกกิโลฯ เข่าซ้ายที่เริ่มปวดหนึบๆ กล้ามเนื้อส่วนอื่นก็พากันก็กรีดร้องประสานเสียงบอกให้หยุดพักกันอย่างพร้อมเพรียง  แม่ค้าเลยแนะนำให้ไปพักที่ฐาน ตชด.บ้านแม่กลองคี

บรรยากาศยามเย็นริมน้ำแควใหญ่

ผ่านหมู่บ้านข้ามสะพานมานิดเดียวก็เจอฐาน ตชด.อยู่ทางซ้ายมือ ปั่นเข้าไป ขออนุญาตพักกับเจ้าหน้าที่ ได้ที่พักเป็นศาลาหลังเล็กริมน้ำแควใหญ่ กางเต็นท์เสร็จก็เย็นย่ำ ถึงเวลาชาวบ้านกลับจากไร่ ขับรถอีแต๊กลงน้ำแล้ววิดน้ำล้างคราบฝุ่นดิน บางคันบรรทุกถังพลาสติกใบใหญ่มาตักน้ำกลับบ้าน เด็กๆ ก็ถือโอกาสกระโดดน้ำเล่นกันสนุกสนาน  ยามเย็นคือโมงยามแห่งการผ่อนคลายของทุกคน  หุงข้าวทิ้งไว้แล้วลงไปอาบน้ำ ซักเสื้อผ้าเสร็จก็ขึ้นมาทำกับข้าว มื้อนี้ผัดกระหล่ำปลีใส่โปรตีนเกษตร แกล้มน้ำพริกนรกแก้เลี่ยน ตบท้ายด้วยกล้วยน้ำว้าอีกสองสามลูก  อิ่มอร่อยและแน่นอน ได้บรรยากาศ...แห่งการรอนแรม

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Dst 70.40 km / Av 15.8 kmph / Mx 75.7 kmph / Tm 8.27 h

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น