วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

วันที่ 8 (14/3/16) : บ้านอุ้มเปี้ยม – น้ำตกพาเจริญ

มื้อเช้าวันนี้

เมื่อคืนน้ำค้างลงจัด ตื่นเช้ามาฟลายชีทเปียกชุ่ม ผึ่งแดดได้นิดหน่อยก็ต้องรีบเก็บทั้งหมาดๆ เพื่อออกเดินทางราวแปดโมงเช้า เช้านี้ตั้งใจจะแวะไปฝากท้องที่ร้านกาแฟใกล้ๆ สั่งซาลาเปาขนมจีบรองท้องและหาขนมกับน้ำติดรถไว้อีกสองขวดใหญ่

ระหว่างนั่งจิบกาแฟก็มีชายมอซอคนหนึ่งหอบหิวกระสอบปุ๋ยรุงรังเดินมาคุ้ยถังขยะ แล้วก็ยกมาม่าคัพก้นถ้วยขึ้นซด ตามด้วยกระทิงแดงก้นขวด  สักเกตุดูมีสติดี ไม่น่าจะใช่คนบ้า ลักษณะเหมือนคนเร่ร่อนไร้บ้านในเมืองหลวง เพียงแต่ที่นี่บนดอย  เลยหิ้วซาลาเปาใส่ถุงไปให้ลุง แกหันมามองหน้า ยื่นมือรับไว้แบบงงๆ ก่อนจะเอาใส่รวมไว้กับสัมภาระอื่น แล้วปิดถังขยะเดินจากไป

เหมือนจะผิวเผินและฉาบฉวย แต่ก็คงช่วยได้ประมาณนี้ แค่อยากจะส่งต่อน้ำใจไมตรี ที่เคยได้รับระหว่างทาง ให้กระจายออกไปยังคนอื่นๆ บ้างก็แค่นั้น

ซากไร่ข้าวโพดข้างทาง ที่บ้านอุ้มเปี้ยม

ออกจากบ้านอุ้มเปี้ยมราวเก้าโมงเช้า ถนนช่วงนี้สภาพดี ไม่ค่อยชันมาก พ้นเขตชุมชนออกมาก็เป็นไร่สวน บางช่วงมีซากไร่ข้าวโพด รอยเผาตอซังไหม้เกรียม ถัดออกมาก็เป็นป่าแห้งๆ  อัดขึ้นสักหน่อยก็มีทางราบพอให้ได้พักขาบ้าง  มีแค่บางช่วงที่ชันพอให้ได้ใช้เกียร์ 1x1 แต่วันนี้ก็ได้ลงจานเล็กบ่อยเพราะเข่าซ้ายเริ่มปวดหนึบๆ จากการอัดขึ้นดอยโหดๆ มาหลายวัน


ดอกเสี้ยวป่าสีขาวระหว่างทาง

เมื่อหลายปีก่อนเคยนั่งรถผ่านถนนสายนี้ช่วงหน้าฝน ป่าสองข้างทางเขียวชอุ่ม อากาศชื้นเย็น และหมอกฝนลงจัด บางช่วงรถต้องเปิดไฟตัดหมอกส่องเห็นเส้นถนนสีดำท่ามกลางหมอกขาว ราวกับว่ารถกำลังวิ่งลัดเลาะบนถนนลอยฟ้า พอเข้าหน้าแล้ง ป่าแห้ง แดดแรง มีฝุ่นดินของถนนผุพัง และควันไฟป่า  แต่ท่ามกลางความร้อนแล้งก็ยังพอมีสันของดอกเสี้ยวป่า ไม้ยืนต้นขนาดเล็กที่ทิ้งใบออกดอกสีขาวเป็นหย่อมๆ อยู่กลางป่าแห้งๆ ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ

ในทางทุรกันดาร น้ำสักขวดหนึ่งก็มีค่า ท่ามกลางป่าแล้งแห้ง ดอกไม้เล็กๆ ก็ชื่นใจ

บนถนนสาย 1090

พ้นเขตป่าแห้งๆ ขึ้นมาก็เริ่มเป็นป่าทึบ มีต้นสนขึ้นแซม ตอนเที่ยงก็ถึงด่านตรวจ ตชด. ที่เคยแวะขอน้ำเมื่อคราวก่อน แล้วก็ถึงจุดพักใจที่เคยหมดน้ำหมดกำลังใจ  การได้ปั่นย้อนกลับมาทางเก่า ก็เสมือนได้ย้อนหาความรู้สึกเดิมๆ สุข ทุกข์ ท้อแท้ ฮึกเหิม ทิวทัศน์บนยอดดอยที่พาหัวใจปลื้มปิติ หรือยามหมดแรงเจียนตาย พอผ่านมาได้...มันก็แค่นั้น  เหลือเพียงเรื่องราวและความทรงจำให้รำลึกถึง ยามเปิดดูภาพเก่าๆ ในมวลเมฆ (Google Cloud)

จากนั้นก็ไหลลงยาวๆ จนถึงบ้านร่มเกล้าสหมิตร  แวะกินข้าวเที่ยงแล้วตบท้ายด้วยน้ำแข็งไส นั่งพักขาสักครู่แล้วออกปั่นต่อ มาถึงน้ำตกพาเจริญตอนบ่ายสองโมง เข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ขอกางเต็นท์ ได้ทำเลเหมาะๆ ที่ใต้ต้นมะไฟริมน้ำที่กำลังออกลูกเป็นพวงๆ สีเขียว จัดการผูกเชือกตากเต็นท์และฟลายชีตที่ชุ่มน้ำค้างเมื่อคืน ซักผ้า อาบน้ำ แล้วก็นอนเปล ถึงเวลาพักขาสักที  ตั้งใจว่าจะพักที่นี่สักสองคืน รอมิตรสหายเดินทางมาจากบังกอก นัดเจอกันที่แม่สอด แล้วจะปั่นขึ้นเชียงใหม่ด้วยกัน

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Dst 51.38 km, Av 14.6 kmph, Mx 65.9 kmph, Tm 3.30 h

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น