 |
| แคมป์กราวด์ ที่ อช.เขาสก ยามเช้า |
เมื่อวานอัดเต็มที่ กินเต็มอิ่ม แล้วก็หลับเต็มตื่น ยามเช้าในป่าอากาศเย็นสบาย ตื่นขึ้นมาล้างหน้าล้างตาแล้วลงไปตักน้ำในคลองสกมาต้มกาแฟ ที่ส่งตรงมาจากแม่สาย นั่งจิบอราบิกาหอมๆ ฟังเสียงชะนีร้องโหยหวนลั่นป่า
เมื่อสี่ห้าปีก่อน ผมมาเขาสกครั้งแรกกับรุ่นพี่สี่ห้าคน เราเดินป่าหาที่เล่นน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ ขากลับตอนเย็น ผมเดินชมนกชมไม้ตามหลังห่างจากกลุ่ม อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังมาจากยอดไม้ พอเงยขึ้นไปก็เจอชะนีฝูงหนึ่งสี่ห้าตัวกำลังห้อยโหนหากินลูกไม้ ผมได้แต่ยืนจ้อง นิ่งงัน แอบดูอยู่สักพักจนฝูงชะนีผละไป จึงค่อยๆ เดินออกมา นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เจอชะนีตัวเป็นๆ ในป่าจริงๆ ต้นปีก่อนที่มากับเพื่อน เดินป่าเข้าไปไม่ไกลก็ยังได้เจอลิงป่าฝูงหนึ่ง นอกจากดอกบัวผุด ไฮไลท์ของที่นี่แล้ว หากเข้าใกล้ธรรมชาติพอก็อาจได้เจอสัตว์ป่าอีกหลายชนิด
 |
| "Sisyphe" ริมถนนสาย 401 ฉางหลังคือสวนปาล์มสุดสายตาจนจรดภูเขา |
ออกจากเขาสกสิบโมงกว่า กลับมาเลี้ยวขวาเข้าสาย 401 สักพักก็เริ่มขึ้นควนชันๆ อัดขึ้นมาเรื่อยๆ สองข้างทางเป็นป่าดิบ ยอดควนเป็นรอยต่อของ สุราษฏร์ฯ-พังงา ระหว่างทางยังโชคดีได้เจอลิงป่าฝูงใหญ่หากินอยู่บนต้นไม้ข้างถนน พอปั่นเข้าไปใกล้ๆ พวกมันก็หลบหายเข้าป่า พอพ้นเขตป่าก็เจอเนินกว้างๆ เป็นจุดชมวิวเขาหินปูน และป่าปาล์มด้านล่างลิบๆ ตา กินน้ำพักขาพอหายเหนื่อยก็ไหลลงควนมาเรื่อยๆ ถนนช่วงนี้ตัดลัดเลาะไหล่เขา จึงมีโค้งให้ซิ่งตลอดทาง สักพักใหญ่ๆ ก็ลงมาถึงทางราบด้านล่าง ซัดยาวจนถึงทางแยกตัดกับสาย 4090 ทางลัดไปพังงา แวะซื้อน้ำหวานแล้วนั่งพักขาที่ศาลาข้างทาง
พอหายเหนื่อยก็ออกปั่นต่อ ทางส่วนใหญ่เป็นทางราบ ข้างทางเป็นสวนยาง ปาล์มและบ้านเรือนเป็นระยะๆ สักพักก็มาถึงสามแยกโคกเคียน ตัดกับสายหลักเพชรเกษม เลี้ยวซ้ายไปอีกราวสี่กิโลก็ถึงตะกั่วป่า พอเริ่มเข้าใกล้เมือง รถก็เริ่มเยอะ มาถึงตอนเที่ยง แวะกินข้าวนั่งพักขาและขอชาร์จมือถือ ระหว่างนั้นก็คิดวางแผนการเดินทาง ตอนแรกผมตั้งใจจะหาที่พักย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า แต่วนหาไม่เจอ เลยตัดสินใจออกเดินทางต่อกลับทางเดิม มุ่งหน้าไปทางคุระบุรี
 |
| ซุ้มต้นหางนกยูง ถนนเพชรเกษม แถว อ.คุระบุรี |
ออกจากเมืองตะกั่วป่าราวบ่ายสอง เข้าสาย 4 เพชรเกษม ถนนสองเลนมีไหล่ทาง ข้างๆ มีต้นไม้ใหญ่จำพวกฉำฉา หางนกยูง ประดู่ เรือนยอดแผ่ประสานกันจนกลายเป็นซุ้มต้นไม้ ดูสวยงาม ร่มรื่น น่าปั่น แน่นอนว่าผมอดแวะถ่ายรูปไม่ได้ ถนนส่วนใหญ่เป็นทางราบ พบเจอหมู่บ้านเกือบตลอดทาง เท่าที่สังเกตเห็นระหว่างทางเจอทั้งวัดและมัสยิดพอๆ กัน
มาถึงบึงคุรอดเกือบหกโมงเย็น เห็นบึงน้ำกว้างๆ เลยปั่นแวะเข้าไปดู ด้านหน้ามีห้องน้ำที่ใช้การไม่ได้ แต่น้ำในบึงก็พออาบได้ เล็งมุมกางเต็นท์ได้แล้วก็แวะไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารมุสลิมข้างๆ ตลาดนัดอีกฝั่งถนน อิ่มแล้วซื้อสัปรดภูเก็ตลูกน้อยๆ เก็บไว้เป็นเสบียง พอเห็นนักปั่นแปลกหน้า แม่ค้าก็ชวนคุย พอรู้ว่าผมคิดจะพักที่ริมบึง ก็เลยชวนให้พักข้างหลังแผงขายผลไม้ ข้างหลังมีห้องน้ำพร้อม...แจ๋วเลยคับ ป้าบอกให้นอนเป็นเพื่อนกะลุงสามีของแก ที่ต้องนอนเฝ้าแผงทุกคืน มีป้าบ้างลูกชายบ้างสลับมานอนเป็นเพื่อน
 |
| ที่กางเต็นท์เมื่อคืนนี้ ใต้ต้นกาหยู บึงคุรอด |
รอจนตลาดนัดวาย ก็เข็นจักรยานขึ้นไปจอดล็อคกับต้นกาหยู (มะม่วงหิมพานต์) แล้วกางเต็นท์ข้างใต้ อาบน้ำเสร็จก็มานั่งคุยกะลุงจนดึกดื่น ได้ฟังเรื่องราวมากมาย ตั้งแต่ชีวิตที่พลิกผันของแกจากผู้รับเหมาะก่อสร้าง มาเป็นทำสวนผลไม้ จนกระทั่งเปิดแผงขาย เรื่องราวเมืองตะกั่วป่าจากยุคเหมืองแร่ สึนามิ จนถึงปัจจุบัน
เราออกเดินทางไม่ใช่แค่เสพบรรยากาศระหว่างทาง แต่เพื่อเรียนรู้ ทำความเข้าใจโลกและชีวิตผ่านเรื่องราวต่างๆ ที่ถูกซ่อนเอาไว้ อยู่ในผู้คนที่เราพบเจอระหว่างทางนี่เอง แค่เรามีเวลาได้นั่งลงรับฟังกัน
วันนี้ได้ระยะทาง 82.6 กม. ความเร็วเฉลี่ย 18.7 กม./ชม. ความเร็วสูงสุด 55.9 กม./ชม. เวลาปั่น 4.22 ชม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น