วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Trip แรงน่องท่องระนอง (วงกลม) วันที่ 5 (20/3/15) : รร.มัชฌิมวิทยา กระบุรี - หาดทรายรี สวี

ประภาคาร ที่บ้านบ่อคา


ตื่นเช้าตั้งแต่หกโมงกว่า ระหว่างเก็บของนักเรียนก็เริ่มทยอยเข้ามาโรงเรียน บางคนแอบด้อมๆ มองๆ บางคนทำใจกล้าเข้ามาทักทายนักเดินทางแปลกหน้า  เก็บของไปก็เล่าเรื่องราวการเดินทางให้เด็กๆ ฟัง เสร็จแล้วก็ลาครูใหญ่และเด็กๆ ออกมานั่งกินโจ้กกับกาแฟที่ร้านค้าข้างโรงเรียน

ยามเช้าหมอกลงจัด จนต้องเปิดไฟหน้าหลัง ถนนช่วงนี้ก็กำลังขยายเป็นสี่เลน เครื่องจักรกำลังทำงาน รถเยอะ ปั่นมาสักพักก็ถึงบ้านทับหลี เจอแผงขายซาลาเปาตลอดสองข้างทาง หลายสิบเจ้า แวะอุดหนุนชุดหนึ่ง แม่ค้าสาวใต้หน้าคมเข้มเล่าให้ฟังว่า เดิมทีมีชาวจีนครอบครัวหนึ่งเริ่มทำซาลาเปาขาย รสชาติอร่อยถูกใจชาวบ้าน จนมีชื่อเสียงโด่งดัง  พอเพื่อนบ้านเห็นก็เอาอย่างบ้าง  จนทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันเกือบทั้งหมู่บ้าน  กลายเป็นสินค้าโอท็อปขึ้นชื่อของ อ.กระบุรีและ จ.ระนอง  ปัจจุบันซาลาเปาทับหลีหาซื้อได้ทั่วไปในระนอง ชุมพร และสุราษฎร์ฯ

สวนผลไม้ ข้างถนนสาย 2005 ทางลัดจากวังใหม่-วิสัยเหนือ


ราวสิบโมงมาถึงบ้านวังใหม่ เลี้ยวเข้าไปทางถนนสาย 2005 ลัดไปออกบ้านวิสัยเหนือ ถนนสองเลนกว้างสภาพดี มีโค้งควนให้ขึ้นลง สองข้างทางเป็นสวนผลไม้ บางสวนทุเรียนกำลังออกดอก ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ถ้าปั่นผ่านช่วงฤดูผลไม้คงได้แวะกินกันเพลิน

เรือประมงที่บ้านบ่อคา


บ้านเรือนไม้เก่าแก่ยังหลงเหลือหลายหลัง แสดงให้เห็นอดีตที่เคยรุ่งเรืองของชุมชนบ่อคา


ตอนบ่ายไปถึงแยกวิสัยเหนือ ตัดกับถนนเอเชียสาย 41 ผมปั่นข้ามตรงไปออกสถานีรถไฟวิสัย แวะกินข้าวเที่ยง แล้วปั่นลัดเลาะไปถนนสาย 4003 เลียบชายทะเลไปถึงบ้านบ่อคาราวสี่โมงเย็น แถวนี้เป็นชุมชนชาวประมงเก่าแก่ ตึกแถวไม้เก่าๆ ยังเหลือให้ชมหลายหลัง  แวะคุยกับลุงที่ร้านขายของ เล่าให้ฟังว่า เดิมทีชุมชนบ่อคามีชาวจีนอพยพมาทำประมง โดยเฉพาะโป๊ะดักปลา เนื่องจากบริเวณนี้เป็นอ่าว มีปลาชุกชุมจึงมีโป๊ะหลายหลัง สมัยนั้นมีแรงงานประมงเข้าออกจำนวนมาก เศรษฐกิจก็คึกคัก บ้านบ่อคากลายเป็นย่านเศรษฐกิจเล็กๆ ริมทะเล จนกระทั่งภายหลัง เทคโนโลยีประมงก้าวหน้าขึ้น ปลาเริ่มลดลง คนทำโป๊ะก็หันไปทำเรือประมงกันหมด จนหมู่บ้านค่อยๆ เงียบเหงาลงอย่างที่เห็น

พรานหมึก ที่สะพานปลาบ้านท้องตมใหญ่


เดินเล่นถ่ายรูปสักพักก็เตรียมตัวเดินทางต่อ เปิดแผนที่ในมือถือหาจุดที่น่าสนใจได้แล้ว ก็ปั่นต่อเข้าสาย 4011 ไปถึงวัดท้องตมใหญ่ก็ปั่นผ่านวัดเข้าไป ลัดเลาะผ่านหมู่บ้าน เข้าไปเที่ยวที่หมู่บ้านท้องตมใหญ่ ริมทะเล จอดรถไปเดินเล่นที่สะพานปลา ชาวบ้านกำลังนั่งตกหมึกและตกปลาอยู่หลายคน แวะคุยกัน เขาบอกว่าช่วงนี้หมึกกำลังจะขึ้นก็เลยมีคนมาตกหมึกไม่กี่คน ถ้าช่วงเดือนเมษาฯ หมึกขึ้นเยอะๆ คนตกหมึกจะนั่งเรียงต่อกันไปตลอดสะพาน บรรยากาศคึกคัก ตกหมึกกันสนุกสนานมาก

กางเต็นท์ริมชายหาดทรายรี สวี (ภาพตอนเช้าวันรุ่งขึ้น)


คืนนี้ตั้งใจจะหาที่นอนริมชายหาดสงบๆ ปั่นมาถึงหาดทรายรี สวี หกโมงกว่า เจอศาลาอเนกประสงค์ของ อบต. อยู่ริมชายหาด เลยแวะลงไปสำรวจ มีห้องน้ำพร้อม เงียบสงบสมใจ ปั่นไปที่ร้านค้าข้างๆ ขออนุญาตพักค้างคืน แล้วซื้อเสบียงกลับมาหุงข้าว ระหว่างนั้นก็จิบเบียร์พลางฟังเสียงคลื่นรอข้าวสุก คืนนี้ได้กางเต็นท์นอนใต้ต้นมะพร้าวริมหาดสมใจ

วันนี้ได้ระยะทาง 105 กม. ความเร็วเฉลี่ย 18.9 กม./ชม. ความเร็วสูงสุด 41.8 กม./ชม. เวลาปั่น 5 ชม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น