วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Trip ไชยา-นครครีฯ (วงกลม) วันที่ 4 (4/5/58) : สิชล – ไชยา (จบทริป)

ยามเช้าที่ แคมป์กราวด์ในสวนปาล์ม สิชล


คืนฤดูร้อนในสวนปาล์มอากาศอบอ้าวมากๆ กว่าที่ไอเย็นจะเข้ามาขับไล่ไอร้อนก็เกือบหัวรุ่ง  เมื่อต้นปีขึ้นเหนือไปตะกายดอย ขนทั้งถุงนอน ไลเนียร์ ชุดลองจอน ซ้อนชุดนอนแขน-ขายาวอีกชุด แถมเสื้อกันลมอีกตัว บางคืนยังเอาไม่อยู่  แต่พอมาปั่นทางใต้ตอนหน้าร้อน ทริปก่อนไประนอง ผมพกถุงนอนไปด้วยแต่ก็ไม่ได้ใช้สักคืน ทริปนี้เลยขนมาแค่ไลเนียร์ แต่ก็ได้แค่เอามาห่มตอนหัวรุ่งเท่านั้น

ตื่นขึ้นมาต้มน้ำชงกาแฟ เปิบขนมปังทาแยมส้มห่อกล้วยตาก ทดลองฟิวชันไปเรื่อย มีอะไรก็กินนั่น ลดน้ำหนักและลดภาระของน่อง  นั่งโอ้เอ้ได้สักพัก สวนปาล์มแปลงข้างๆ ก็เริ่มลงงานกันแต่เช้า พอเห็นนักท่องเที่ยวแปลกหน้าปั่นจักรยานมากางเต็นท์อยู่ใต้โคนปาล์ม หนุ่มเจ้าของสวนก็เดินเข้ามาหา เพราะนึกว่าเป็นฝรั่งกลับจากงานฟูลมูน ปาร์ตี ที่หาดสิชลเมื่อคืน เรานั่งคุยกันสักพัก

"บอบแบบแรงปีนี้ ยางสามโลร้อย ขี้ยางไม่ถึงยี่สิบ ปาล์มก็เหลือสองบาทกว่า... แถมลานปาล์มก็หยุดรับซื้อมาเกือบเดือน ปาล์มร่วงเต็มโคนแล้วนิ" แล้วพรือไม่ขายโรงงาน เขาบอกโรงงานรับเฉพาะรถที่ลงทะเบียนไว้แล้วเมื่อปีก่อน เหมือนกับโรงงานจะฮั้วกับลาน บังคับให้ชาวสวนรายย่อยขายที่ลาน "ปาล์มโลละสองบาทก็ยอมแล้วตอนนี้ ขอแค่เปิดรับซื้อ นี่เด็กๆ ก็กำลังจะเปิดเทอมแล้วหลาว..."

ผมก็ได้แต่รับฟัง แบ่งปันทุกข์สุขตามประสาชาวสวนด้วยกัน แม้อีกใจหนึ่งจะรู้สึกว่า ดีแล้ว คนใต้จะได้โดนซะมั่ง ก็โหมเราไม่ใช่หรือที่ออกมาปิดถนน ล้มการเลือกตั้ง เรียกทหารเข้ามา คราวนี้จะได้รู้รสชาติเผด็จการทหารบ้าง แต่ก็เข้าใจ เพราะผมเองก็ชาวสวนคนหนึ่ง ก็เดือดร้อนไม่แพ้กัน แม้อยากจะพูดอะไรกระแทกใจออกไปบ้าง แต่ก็ นะ... ยังไม่อยากเป็นปุ๋ยชีวภาพบำรุงต้นปาล์มแถวนี้

ถนนสาย 401 สภาพดี บางช่วงมีไม้ใหญ่ร่มรื่น


ออกปั่นเกือบเก้าโมงเช้า มาตามสายหลัก 401 ปกติผมพยายามเลี่ยงถนนไฮเวย์สี่เลน เพราะรถเยอะขับเร็ว หมู่บ้าน ร้านค้าอยู่ห่างๆ กัน ไม่เหมือนถนนสายย่อยที่ตัดผ่านอำเภอ หมู่บ้าน แต่จากนครศรีผ่านท่าศาลา-สิชลไปสุราษฎร์ฯ มีทางสายหลักทางเดียวนี้ ก็ได้แต่ปั่นชิดขอบไหล่ทางมาเรื่อยๆ มีร่มไม้ให้หลบแดดบ้างประปราย สักพักก็ผ่านทางแยกขวาเข้า อ.ขนอม ผมปั่นตรงไปทางายเดิม

ซากผีเสื้อเณรข้างถนน


พอเข้าฤดูร้อน ดอกหญ้าข้างทางก็พากันบานไสว เชื้อเชิญให้ผีเสื้อตัวเล็กๆ สีเหลืองๆ โดยเฉพาะสกุลผีเสื้อเณร บินมากันเป็นฝูงๆ  พวกมันบินสูงระดับ 1-2 ม. ช่วงที่บินผ่านถนนก็โดนรถยนต์เฉี่ยวชน กลายเป็นสุสานผีเสื้อปลิวว่อนอยู่บนไหล่ถนน เห็นแล้วน่าสะเทือนใจ  ผมปั่นจักรยานมาช้าๆ ต่างฝ่ายยังพอหลีกหลบกันได้ แต่ตอนที่ขับรถรถยนต์มาเร็วๆ ก็ยากที่จะหักหลบผีเสื้อ นึกแล้วก็เศร้า

ขึ้นสะพานศรีสุราษฎร์


ตอนเที่ยงก็มาถึงกาญจนดิษฐ์ แวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางแล้วปั่นต่อเข้าบ้านดอน (เมืองสุราษฎร์ฯ) เลี้ยวขวาที่แยกบางกุ้งเข้าสาย 4213 ตรงไปทางปากน้ำ แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานศรีสุราษฎร์ แวะถ่ายรูปสักพักแล้วก็ไหลลง เข้าทาง 420 เลี้ยวขวาเข้าสาย 2007 ผ่านบางใบไม้ ลัดเลาะสวนมะพร้าว ออกบางปอ ลีเล็ด ไปออกท่าเคย ตัดกับสาย 4112 ที่ท่าฉาง แวะซื้อน้ำตาลสดแกล้มข้าวเหนียวกวนข้างทาง ชาวบ้านชวนให้นั่งพัก จัดแจงหาน้ำเย็นมาให้กิน

เมื่อหลายปีก่อนใครผ่านแถวนี้จะเห็นวิวทุ่งนากับต้นตาลอยู่เต็มคันนา อาชีพหลักของชาวท่าฉางก็คือทำนา ทำตาลและออก'เล แต่ทุกวันนี้นาข้าวกลายเป็นนาปาล์ม ต้นตาลริมคันนาถูกโค่นปลูกปาล์ม คนทำตาลเหลืออยู่ไม่กี่เจ้าแล้ว แต่ก็นับว่ายังเหลือมากกว่าที่ไชยาบ้านผม

นั่งคุยกับชาวบ้านสักพักพอหายเหนื่อย อุดหนุนลูกตาลเชื่อม ลูกตาลลอยแก้วมาฝากแม่สักสองถุงก็ออกปั่นต่อ ผ่านตลาดท่าฉาง ขึ้นควนบางน้ำจืด ผ่านบ้านหัววัว กลับถึงบ้านราวห้าโมงเย็น

วันนี้จัดไป 111 กม. ความเร็วเฉลี่ย 21.2 กม./ชม. เวลาปั่น 5.13 ชม.

-----------------------------------------------------------------------------------

สรุปทั้งทริป 4 วัน 4 คืน ตากฝน ตากแดดหน้าดำ ก้นระบม ซัดไป 441 กม. ทริปสั้นๆ ใกล้ๆ บ้าน ทดสอบรถ ทดสอบของไปเรื่อย ที่สำคัญได้พาแม่มาซิ่งเลียบทางรถไฟ-ถนนสายล่างไปบ้านยายสักที หลังจากบ่นว่าคันๆ มาตลอดตอนนั่งรถผ่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น