วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Trip แรงน่องท่องระนอง (วงกลม) วันที่ 3 (18/3/15) : บึงคุรอด - อช.แหลมสน

ยามเช้า หน้าแผงขายผลไม้ของลุง-ป้าใจดีแห่งบึงคุรอด


เมื่อคืนนอนหลับสบายใต้ต้นกาหยู บริเวณที่เคยเป็นเหมืองแร่เก่า เปิดเต็นท์ออกมาก็ได้กลิ่นหญ้าแห้งปนมากับกลิ่นลูกกาหยูสุก หอมอมเปรี้ยวเฉพาะตัว ถ้าลูกเน่าๆ จะได้กลิ่นสาบแพะท็อปปิงเพิ่มมาอีกหน่อย  นอกจากกลิ่นก็ยังมีเสียงดังกึงกังๆ จากโรงงานปาล์มน้ำมันด้านหลังดังตลอดคืน  ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนคงนึกถึงเสียงเรือขุดแร่ และบรรยากาศใน "มหา'ลัยเหมืองแร่" เป็นแน่แท้


ถนนเพชรเกษมก่อนเข้าเมืองคุระบุรี

เก็บของแพ็ครถเสร็จก็ลงมานั่งกินกาแฟ คุยกับลุง-ป้าที่กำลังเปิดแผงขายผลไม้ เสร็จแล้วก็ล่ำลาออกเดินทางต่อ สายๆ ก็ผ่าน อ.คุระบุรี ถนนเพชรเกษมช่วงนี้สองเลนสภาพดี บางช่วงต้นไม้ข้างทางร่มรื่น สลับกับสวนยาง ปาล์ม ผลไม้ ชุมชนส่วนใหญ่ถัดจากนี้ไปจะเป็นชาวมุสลิม จึงพบมัสยิดตั้งอยู่ในหมู่บ้านไปตลอดทาง

สภาพถนนเพชรเกษมเขต อ.กะเปอร์ คดโค้ง ขึ้นเขาเบาๆ พอเหงื่อซึมๆ


สำหรับผมภาพประทับในความทรงจำของถนนสาย 4 ช่วง ตะกั่วป่า-ระนอง นอกจากลุง-ป้าใจดีที่บึงคุรอด ก็คือทิวทัศน์ระหว่างทาง ชุมชนมุสลิม ถนนงามๆ มีโค้งควนเซ็กซี่ๆ แล้วก็มีกลิ่นลูกกาหยูสุกนี่แหละที่ยิ่งเพิ่มความเอ็กโซติกให้ถนนสายนี้

หาดประพาส ชายหาดกว้างยาว ทรายขาว ริมหาดมีต้นหูกวางและสนร่มครึ้มน่าพักผ่อน


ตอนเที่ยงแวะเข้าไปที่หาดประพาส  ชายหาดกว้างยาว ทรายขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ มีต้นสนปลูกเป็นแนวไปตลอดชายหาด น่าพักผ่อน  แวะไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ที่ทำการอุทยาน เขาบอกว่า ไม่มีร้านค้าหรือร้านอาหาร ก็เลยต้องปั่นกลับออกมาทางเดิม สักพักก็ผ่าน อ.สุขสำราญ แวะหาข้าวกิน  อิ่มแล้วก็ซัดยาวมาถึง อ.กะเปอร์ ราวสี่โมงเย็น แวะหาเสบียงที่ตลาดสดและเซเว่นฯ ข้างๆ  ออกปั่นต่ออีกไม่นานก็มาถึงปากทางเข้า อช.แหลมสน ป้ายบอกระยะทาง เข้าไปอีก 10 กม. เปิดมือถือเช็คแผนที่แล้วสอบถามชาวบ้านอีกครั้งก็ปั่นเข้าไป

ป่าชายเลนข้างทางไป อช.แหลมสน


ถนนลาดยางเล็กๆ สภาพดี ตัดผ่านหมู่บ้านและสวนมะพร้าวเข้าไป สักพักก็เป้นป่าชายเลนร่มครึ้ม แล้วก็เจอหมู่บ้านชาวประมงก่อนจะถึงที่ทำการอุทยาน  ไปถึงก็เจอฝรั่งนักปั่นคนหนึ่งกำลังติดต่อเจ้าหน้าที่อยู่ เขาเลยให้ผมช่วยเป็นสื่อสารกับนักท่องเที่ยว  พอจ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อย เราสองคันก็ปั่นเข้าไปกางเต็นท์อยู่ใกล้ๆ กัน แถวแคมป์กราวด์ไม่ไกลจากชายหาด  เสร็จแล้วชวนกันออกไปกินเบียร์ด้านนอกอุทยานฯ


Gerald in "Paradise"


เขาแนะนำตัวว่าชื่อ Gerald มาจากออสเตรีย อายุ 57 ปี กำลังปั่นรอบโลก ช่วงนี้อยู่ในทริปเอเชีย ที่เขาเริ่มต้นจากอินเดีย เข้าพม่า ไทย ลาว วกเข้าไทยอีกครั้ง แล้วปั่นลงใต้ เพื่อเข้ามาเลเซีย แล้วต่อไปอินโดนีเซีย... ช่างเป็นชีวิตที่น่าใฝ่ฝันยิ่งนัก กรี้สสสสสสสส

หมดเบียร์ไปคนละขวดก็กลับเข้าที่พัก แล้วนั่งเมาท์มอยกันต่อจนดึกดื่นเมื่อยมือ  ได้ฟังประสบการณ์การเดินทาง แถมยังถ่ายทอด "วิชาทัวริง" ให้ผมมากมาย

เสือสองตัว อลูฯ และโครโมฯ เชื้อชาติดัชท์และสยาม แต่เกิดที่เมืองไทเปเหมือนกัน


ด้วยฤทธิ์แห่งเบียร์จึงพอจะบรรยายสั้นๆ ได้ประมาณนี้

เต็นท์โดดเดี่ยวสองหลัง
Pitch under the trees by the beach
โคจรมาพบกัน โดยมิได้นัดหมาย
ไฟสีเขียวของเรือไดหมึก วิบวับอยู่กลาง’เล
ซวบซาบ ซวบซาบ คลื่นล้อลม หรือลมล้อคลื่น
ชิส์ ใครจะไปสน..
"You're live in paradise.."
คืนฤดูร้อน...แหลมสน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น