ยกที่ 2 วันที่ 5 (19/11/13) ท่าตอน-ดอยแม่สลอง

สะพานข้ามน้ำกก ท่าตอน

ต้มน้ำกินกาแฟในห้องพักเสร็จแล้วเก็บของ คืนห้องออกเดินทางราวเก้าโมง ปั่นกลับขึ้นมาบนสะพานข้ามน้ำกก แวะถ่ายรูปอีกครั้ง แล้วมุ่งหน้าไปทางดอยแม่สลอง ได้พักขามาครึ่งวันกับอีกคืน วันนี้อาการปวดล้ากล้ามเนื้อค่อยบรรเทาลงหน่อย รู้สึกสดชื่น กำลังวังชากลับคืนมาบ้างแล้ว

ยกที่ 2 วันที่ 4 (18/11/13) ม่อนปิ่น – ท่าตอน

เรือแข่งในแม่น้ำกก ที่ท่าตอน

ตื่นเช้าเก็บเปลแพ็ครถเสร็จ พี่ตำรวจในป้อมชวนไปกินกาแฟคุยกัน แกเล่าให้ฟังว่า ลูกชายก็ชอบขับมอเตอร์ไซค์เที่ยว แรกๆ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่พอนึกถึงตัวเองสมัยหนุ่มๆ ก็เข้าใจ  “คนหนุ่มก็รักการเดินทางกันทั้งนั้นละ” ยีนความรักผจญภัยมันฝังอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน แต่จะออกฤทธิ์หนักๆ ก็ช่วงหนุ่มสาวนี่แหละ

ยกที่ 2 วันที่ 3 (17/11/13) ฐานฯ ซุยถัง-ม่อนปิ่น

สวนผลไม้ในหุบเขา อ่างขาง

ตื่นเช้าเก็บเต็นท์ไปคืนทหาร เขาชวนกินกาแฟ แต่ผมปฏิเสธด้วยความเกรงใจ เตรียมตัวจะลงไปชมสวนผลไม้ สักพักเสียงรถยนต์เข้ามาจอด เตรียมของเปิดร้าน เสร็จแล้วก็ชวนผมขึ้นกระบะโฟร์วีลด์ขับลัดเลาะไหล่เขา ฝ่าหมอกยามเช้าลงไปอย่างชำนาญ

ยกที่ 2 วันที่ 2 (16/11/13) บ้านแม่ปาคี- ฐานปฎิบัติการซุยถัง ดอยอ่างขาง

ตูบเฝ้าไร่ข้าวโพด ที่บ้านแม่ปาคี

โลกภายนอกเริ่มสว่างไสว ส่งแสงทะลุมุ้งเปลมาปลุกตั้งแต่หกโมงครึ่ง ลงจากตูบเฝ้าไร่เดินไปลำธาร ล้างหน้าล้างตา แล้วตักน้ำมาต้มกาแฟ มาถึงก้มดูที่ข้อเท้ามีตัวเย็นๆ มาเกาะอีกแล้ว ทากดูดเลือด พนักงานต้อนรับของป่า เตรียมเช็คเอาท์สินะ 555

ตื่นขึ้นมาสูดยามเช้าจนชุ่มปอด ซังข้าวโพดหอมอุ่นๆ ปนกลิ่นดินชื้นๆ ลำธารเย็นๆ เสียงนกนานาชนิดร้องอยู่บนต้นไม้ด้านหลัง เสียงวัวก็ร้อง มอ มอ ดังมาจากหมู่บ้าน นี่คือบรรยากาศสำหรับแกล้มกาแฟเช้านี้

ยกที่ 2 พร้าว-แก่งผาได วันที่ 1 (15/11/13) พร้าว-บ้านแม่ปาคี

แวะพักขาเตรียมงัดเนิน ทางหลวงหมายเลข 1346

เมื่อคืนนอนที่เชียงใหม่ ตื่นเช้าเก็บของแล้วติดรถเพื่อนรุ่นพี่มาถึงพร้าวเกือบ 9 โมง งานแต่งกำลังเริ่มพอดี งานเล็กๆ เรียบง่าย ไม่เอิกเริก แขกในงานก็มีญาติผู้ใหญ่กับเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่าย  สักพักก็เริ่มพิธีผูกข้อมือทำขวัญแบบทางเหนือ เสร็จแล้วถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แล้วก็เริ่มกินข้าวเที่ยงราว 11 โมง

ยกที่ 1 วันที่ 4 (12/11/13) ดอยขุนแจ๋ เวียงป่าเป้า-พร้าว

ไร่กาแฟอราบิกา ปลูกบนเชิงดอยชันๆ

ตื่นเช้าล้างหน้าล้างตา แล้วจัดการมื้อเช้า เปิบข้าวเย็นที่เหลือจากเมื่อคืนคลุกน้ำพริก แล้วต้มน้ำชงกาแฟอีกถ้วย นั่งจิบกาแฟ 3 in 1 อยู่ข้างไร่กาแฟ โรแมนติกฝุดๆ 

เก็บของเสร็จก็ออกมาเดินชมสวนกาแฟที่ระดับ 85 องศา ไม่ใช่อุณหภูมิ แต่เป็นความชัน มีต้นกาแฟอราบิกาสูงแค่หัวเข่า ปลูกเต็มพรืด เห็นแล้วก็นึกสงสัยว่าตอนเก็บเกี่ยวจะทุลักทุเลขนาดไหน  

ยกที่ 1 วันที่ 3 (11/11/13) ดอยหลวง พะเยา-ดอยขุนแจ เวียงป่าเป้า

จุดชมวิวบนดอยหลวง พะเยา

เมื่อคืนหนาวมาก ชุดนอนเสื้อกางเกงขายาวกับถุงนอน 15 องศา แทบเอาไม่อยู่ ตื่นขึ้นมาเก็บของแล้วโอ้เอ้ชมวิวอยู่สักพัก ออกเดินทางราว 9.30 น. ปั่นขึ้นดอยมาอีกหน่อยก็จะเป็นทางลง ไหลลงมาเรื่อยๆ ระหว่างทางแวะถ่ายรูปที่น้ำตกสองแห่ง  สักพักก็ลงทางราบ ข้างทางเป็นสวนผลไม้ ลิ้นจี่ มะม่วง ฝรั่ง แวะซื้อฝรั่งติดกระเป่าไว้เป็นเสบียง

ยกที่ 1 วันที่ 2 (10/11/13) ดอยแม่ตีบ-ดอยหลวง พะเยา

จากดอยแม่ตีบมุ่งหน้าไปงาว

ตื่นเจ็ดโมงกว่า ล้างหน้าเก็บของออกเดินทาง ไหลลงจากยอดดอยแม่ตีบสักพักก็เป็นทางราบ ผ่านทุ่งนาและหมู่บ้าน แวะกินข้าวเช้าก่อนถึงสามแยก ตัดกับสาย 1 พหลโยธิน เลี้ยวขวาไปทางพะเยา ถนนสี่เลนรถเยอะพอสมควร วิ่งชิดไหล่ทางมาเรื่อยๆ

ยกที่ 1 สิลาอาสน์-พร้าว วันที่ 1 (9/11/13) สิลาอาสน์-ดอยแม่ตีบ

ริมถนนสาย 11 ข้างศาลาพักผ่อน หน่วยบริการประชาชนบ้านไฮ่ฮ้า อ.เมือง จ.อุตรดิถต์

รถไฟมาถึงสิลาอาสน์ราวตี  5 ลงมาแพ็กระเป๋าเสร็จก็ปั่นย้อนกลับไปตลาดอุตรดิตถ์ ตั้งใจว่าจะไปชมชีวิตชาวบ้านยามเช้า  ปั่นเลียบทางรถไฟมาเกือบ 3 กิโล ตลาดเช้าอยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟ  ตลาดไม่ใหญ่นักแต่ผู้คนคึกคัก แวะซื้อข้าวหลามและข้าวต้มมัดเป็นเสบียงแล้วออกมานั่งกินโจ้กรองท้อง

ฺBike Trip : เลาะเลียบลำโขง 2013

หนองปลาบึก อ.สังคม จ.หนองคาย

แม่น้ำโขงมีต้นกำเนิดอยู่บนเทือกเขาหิมาลัยในธิเบต ไหลผ่านจีน ลาว พม่า ไทย กัมพูชา แล้วลงทะเลที่เวียดนาม ความยาวตลอดสายราว 4,880 กม. ช่วงที่ไหลผ่านไทยยาวประมาณ  1,060 กม. เริ่มจากเชียงแสน-เวียงแก่น ในเชียงราย แล้วเข้าลาวก่อนจะวกลับเข้าไทยอีกครั้งที่ เชียงคาน เลย ยาวไปจนถึง โขงเจียม อุบลราชธานี

ผมเคยคิดอยากจะปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำสายนี้มานานแล้ว  จนวันหนึ่ง รุ่นพี่ที่สนิทส่งข่าวมาบอกว่าจะแต่งงานที่พร้าว เชียงใหม่ เลยได้โอกาสพาจักรยานไปปั่นเลียบลำโขง