วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ยกที่ 1 สิลาอาสน์-พร้าว วันที่ 1 (9/11/13) สิลาอาสน์-ดอยแม่ตีบ

ริมถนนสาย 11 ข้างศาลาพักผ่อน หน่วยบริการประชาชนบ้านไฮ่ฮ้า อ.เมือง จ.อุตรดิถต์


รถไฟมาถึงสิลาอาสน์ราวตี  5 ลงมาแพ็กระเป๋าเสร็จก็ปั่นย้อนกลับไปตลาดอุตรดิตถ์ ตั้งใจว่าจะไปชมชีวิตชาวบ้านยามเช้า  ปั่นเลียบทางรถไฟมาเกือบ 3 กิโล ตลาดเช้าอยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟ  ตลาดไม่ใหญ่นักแต่ผู้คนคึกคัก แวะซื้อข้าวหลามและข้าวต้มมัดเป็นเสบียงแล้วออกมานั่งกินโจ้กรองท้อง


หน้าสถานีรถไฟอุตรดิถต์


อิ่มแล้วก็ปั่นกลับทางสาย 1045 ไปเลี้ยวเข้าสาย 11 ถนนสี่เลน ปั่นเลียบไหล่ทางไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าไปทางเด่นชัย แวะพักขาที่ศาลาข้างจุดตรวจของตำรวจทางหลวง ด้านหลังเป็นทุ่งนาที่เพิ่งเก็บเกี่ยว มีฟ่อนข้าวตากบนตอซังเป็นคลื่นงามมาก

ทุ่งนาในหุบเขา ข้างศาลาหน่วยบริการประชาชนบ้านไฮ่ฮ้า


จากนั้นก็เริ่มไต่ขึ้นเขามาเรื่อยๆ ถึงบริเวณที่ชันที่สุดคือก่อนถึงจุดพักริมทางเขาพลึง  นั่กพักขากินน้ำสักหน่อยก็ไหลลงเขา มาถึงเด่นชัยราว 11 โมง เลี้ยวขวาเข้าสาย 101 จากนั้นก็เป็นทางราบ ข้างทางเป็นทุ่งนาที่กำลังเก็บเกี่ยว กลิ่นฟางข้าวใหม่ๆ ยังหอมอุ่นจมูก

ทุ่งนากำลังเก็บเกี่ยวริมถนนสาย  101 แถวเด่นชัย


ไปถึงเมืองแพร่ตอนเที่ยงๆ ปั่นผ่าเมืองไปทางร้องกวาง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสาย 103 ถนนกำลังขยายเป็นสี่เลน ต้นไม้ข้างทางถูกไถออก รถบรรทุกเยอะมาก แดดร้อน ฝุ่นเยอะ ปั่นยาก  สักพักใหญ่ๆ ถึงจะเริ่มเจอต้นไม้ข้างทางร่มรื่น  แต่ต้นไม้ใหญ่ก็ถูกตีตราไว้แล้ว  อีกไม่นานคงกลายเป็นถนนสี่เลนส์ รถยนต์วิ่งสะดวก แต่สำหรับจักรยานคงน่าเสียดาย คราวหน้าผมคงไม่ได้ปั่นใต้ร่มไม้แบบนี้อีกแล้ว

เราขยายถนนให้รถวิ่งสะดวก เพื่อที่จะได้ขายรถยนต์ ขายหิน ขายปูน ถนนเล็กๆ สายเดิมที่เคยร่มรื่น ต้นไม้ถูกโค่นออกหมด ขยายเป็นสี่เลน กว้างขวาง โล่งสะอาดตา แต่กลับดูจืดชืดแห้งแล้ง ไร้ชีวิตชีวา ขาดเสน่ห์ ถนนแบบนั้นมันยิ่งจะบีบขับให้เรารีบเร่งผ่านไปให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะไปไหนก็ไม่รู้  ไม่เหมือนถนนใต้ต้นไม้ที่คอยเชิญชวนให้เราไขกระจกลง ค่อยๆ ผ่านมันไปอย่างช้าๆ อ้อยอิ่ง ปล่อยให้ธรรมชาติค่อยๆ ละลายตัวเองออกเสียบ้าง  หากถนนไม่เป็นมิตรกับต้นไม้ ก็อย่าหวังว่ามันจะเป็นมิตรกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น

ต้นไม้ที่ยังเหลือริมถนนสาย 103
วันแรกแรงยังดี แดดร้อนแต่ก็ปั่นเพลิน  ระหว่างทางเจอกลุ่มบิกไบค์หลายกลุ่มขับแซงผ่านไป  ระหว่างทางเจอกลุ่มเวสป้าจอดอยู่ที่ศาลา  เห็นผมปั่นจักรยานผ่านมาก็โบกมือทักทัก แวะคุยกันเขาบอกว่าจะไปร่วมงานไบค์วีคที่ อ.สอง

ยานพาหนะอาจจะต่างกัน แต่เราก็ออกเดินทางด้วยจุดมุ่งหมายคล้ายๆ กัน คือรักการผจญภัย

จากทางราบ สองข้างทางเป็นไร่มัน ไร่ข้าวโพด สวนสัก ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นทางชันไต่ขึ้นดอยมาเรื่อยๆ ข้างทางเป็นป่า บางช่วงดอยชันขนาดให้รถพ่วงเข้าเกียร์สโลว์ คลานชิดซ้ายขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนจักรยานก็ต้องลงจานเล็ก 1x1 เป็นบางช่วง   ก่อนออกทริปนี้ผมแทบไม่ได้ซ้อมมาเลย พอเจอดอยชันๆ ปั่นหนักๆ มาทั้งวันเล่นเอาตะคริวกินน่องเหมือนกัน  พอเริ่มมืดก็เปิดไฟปั่นหาที่พักมาเรื่อยๆ จนถึงยอดดอยแม่ตีบ รอยต่อของแพร่-ลำปาง มีศาลากรมทางหลวง ห้องน้ำพร้อม ตัดสินใจพักที่นี่แหละ  ขึ้นไปผูกเปลด้านหลัง

จุดพักรถ บนยอดดอยแม่ตีบ


วันแรก มื้อแรกยังขลุกขลักจนลืมซื้อเสบียงหาอาหารกระป๋องติดมาด้วย โชคดีที่ยังเหลือข้ามหลามจากตลาดอุตรดิษฐ์ติดกระเป๋า  วันแรกร่างกายยังสด แรงยังดี อัดเต็มที่

สรุประยะทาง 143 กม. ความเร็วเฉลี่ย 19 กม./ชม. เวลาปั่น 8 ชม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น