![]() |
เรือแข่งในแม่น้ำกก ที่ท่าตอน |
ตื่นเช้าเก็บเปลแพ็ครถเสร็จ พี่ตำรวจในป้อมชวนไปกินกาแฟคุยกัน แกเล่าให้ฟังว่า ลูกชายก็ชอบขับมอเตอร์ไซค์เที่ยว แรกๆ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่พอนึกถึงตัวเองสมัยหนุ่มๆ ก็เข้าใจ “คนหนุ่มก็รักการเดินทางกันทั้งนั้นละ” ยีนความรักผจญภัยมันฝังอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน แต่จะออกฤทธิ์หนักๆ ก็ช่วงหนุ่มสาวนี่แหละ
เข้าไปขอบคุณพี่ตำรวจแล้วออกเดินทางตอนเก้าโมงเช้า ผ่านหมู่บ้านไปตัดกับสาย 107 ปั่นตรงไปเข้าสาย 1089 เลี้ยวซ้ายเข้าเมืองฝาง แวะกินต้มเลือดหมูรองท้อง ออกมาได้กล้วยทอดอีกห่อยัดท้ายรถไว้กันหิวกลางทาง ผ่านฝางมาได้สักหน่อยก็เริ่มหมดแรง ปวดเข่าขวา และเริ่มปวดก้น ทั้งๆ ที่เพิ่งปั่นมาได้แค่สองวัน ได้ระยะทางแค่ห้าหกสิบกิโล คงเป็นเพราะเจอทางโหดๆ งัดดอยชันๆ และเข็นกันสุดฤทธิ์จนเกิดอาการล้าสะสม มาออกอาการเอาวันนี้
ปั่นมาตามสาย 1089 มุ่งหน้าไปทางแม่อาย ถนนสองเลนสภาพดี ส่วนใหญ่เป็นทางราบ วันนี้หมดแรง ปั่นไม่ออก ได้แต่ไหลมาเรื่อยๆ รู้สึกอยากพักขาสักสองวัน พยายามมองหาอุทยานแห่งชาติ หรือน้ำตกที่พอจะพักกางเต็นท์ได้มาตลอดทาง ไปเจอทางเข้าน้ำตกตาดหมอก-ตาดเหมย ป้ายบอกเข้าไปอีก 15 กิโล เห็นดอยชันๆ อยู่ลิบๆ สภาพตอนนี้คงต้องเข็นกันเป็นสิบกิโล วันนี้ขอยอมแพ้ ขอไหลไปเรื่อยๆ หาที่พักเอาข้างหน้า
ปั่นประคองตัวมาเรื่อยๆ จนถึงท่าตอนเกือบเที่ยง เห็นรถจอดเป็นแนวบนสะพานข้ามแม่น้ำกก เลยแวะดู คนมาคอยเชียร์เรือยาวที่กำลังแข่งกันอย่างเมามันนี่เอง ลำไหนชนะฝีพายก็ดีใจกระโดดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ถ่ายรูปสักพักก็ปั่นกลับมาหาที่นั่งพักที่ศาลาริมน้ำกก ข้างบันไดทางขึ้นวัดท่าตอน นั่งกินกล้วยทอดพลางคิดวางแผนการเดินทาง ข้ามน้ำกกไปอีกฝั่งก็เห็นดอยเขียวเข้มอยู่ลิบๆ ตา ดูสภาพร่างกายตัวเองตอนนี้ไม่ไหวแล้ว เลยตัดสินใจหาที่พักที่นี่ ปั่นเลาะริมน้ำกกไปเจอร้านอาหารริมน้ำ แวะกินข้าวเที่ยงแล้วถามป้าเจ้าของร้าน โชคดีเขามีเกสต์เฮาส์อยู่ข้างหลัง ห้องพักเล็กๆ เก่าโทรม ราคาไม่แพง เหมาะกับนักปั่นทัวรุ่งริ่งแบบเรา เอารถเข้าไปจอดในห้อง อาบน้ำซักผ้า ขึงเชือกแอบตากในห้องแล้วเปิดพัดลมเป่า
นอนหลับไปพักใหญ่ ตอนเย็นออกไปเดินเที่ยวงานยี่เป็งที่สะพาน บนเวทีมีการแสดงของเด็กนักเรียนจากชนเผ่าต่างๆ สลับกับการประกวดนางนพมาศ ต่อด้วยดนตรีและแดนเซอร์ ที่ท่าน้ำก็มีแพให้ลงไปลอยกระทง เด็กๆ จุดพรุ จุดประทัดกันดังสนั่นหวั่นไหวตลอดเวลา สองฝั่งถนนหน้าวัดท่าตอนและอีกฝั่งน้ำกกก็มีการออกร้านขายของ ทั้งเสื้อผ้า อาหาร ของที่ระลึก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คือชาวบ้านและชาวชนเผ่าแต่งชุดสีสันสวยงาม เห็นนักท่องเที่ยวที่เป็นฝรั่งต่างชาติไม่กี่คน บรรยากาศโดยรวมชุลมุนวุ่นวาย สนุกสนานแบบไทยๆ (ทางเหนือ) ผมนั่งจิบเบียร์แกล้มไส้อั่วอยู่บนสะพาน เสพบรรยากาศงานยี่เป็งจนเพลิน
![]() |
สะพานข้ามน้ำกกที่ท่าตอน ยามเย็น หลังแข่งเรือ-ก่อนเริ่มงานยี่เป็งตอนค่ำ |
เสพสุราในผับบาร์อันอึกทึก หรือจะมาสู้นั่งจิบอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่มีชีวาเช่นนี้ได้ โกวเล้งไม่ได้กล่าวไว้ หากข้าฯ เพ้อไปเอง ;)
งานยี่เป็งที่ท่าตอนครึกครื้นมากๆ คนเยอะ แต่ไม่ได้ข่าวว่ามีวัยรุ่นทะเลาะ ฟันแทงกัน เหมือนงานแถวบ้าน แต่ที่น่าเศร้าใจก็คือ เห็นนักท่องเที่ยวไม่น้อย กินน้ำ ขนมเสร็จก็โยนถุงพลาสติกลงแม่น้ำซะงั้น... ดีหน่อยก็ทิ้งไว้ข้างถนน เห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ประเพณียี่เป็ง ลอยกระทง ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้าใจมันสักกี่มากน้อย แต่ก็อย่างว่าแหละ เดิมทีเราลอยกระทงเพื่อขอขมาแม่น้ำ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นประเพณีเชิงพาณิชย์ เพื่อการท่องเที่ยวอะไรไปแล้ว เสียงโฆษกบนเวทีก็มัวแต่อวยสปอนเซอร์จนแทบไม่ได้พูดถึงประเพณีนี้ในเชิงลึกอะไร (จะว่าไปมันก็เหมือนๆ กับที่อื่นน่ะแหละ เลิกงานแล้วก็คงเต็มไปด้วยถุงพลาสติกลอยเคว้งคว้าง)
ผมเองก็ทำได้แค่นั่งดู เสร็จแล้วก็ถือขวดเบียร์ของตัวเองไปหย่อนลงถัง แล้วกลับห้องไปนอน
วันนี้ลากขามาได้ 37.59 กม. Av 11 กม./ชม. Tm 3.25 ชม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น