วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ยกที่ 2 วันที่ 10 (24/11/13) เชียงแสน-เชียงของ

ลุงกับป้าที่หน้าบ้าน เชียงแสน


ตื่นเช้ากินกาแฟเก็บของออกเดินทาง ป้าห่อข้าวเหนียวหมูทอดให้อีกชุดใหญ่  ล่ำลาเสร็จก็ออกปั่นย้อนกลับทางเดิมผ่านย่านเมืองโบราณเชียงแสน แวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงแสน บอกเล่าประวัติความเป็นมาของเมือง วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตชาวบ้าน โบราณวัตถุโดยเฉพาะพระพุทธรูปเชียงแสน  ถ้ามีโอกาสเดินทางไปเยือนเมืองต่างถิ่น ผมมักจะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่นั่นเสมอ เพื่อเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของเมืองนั้นๆ และอีกที่ที่จะไม่พลาดคือตลาด เพื่อเรียนรู้ความเป็นไปในปัจจุบัน

เมืองโบราณเชียงแสน

เดินเล่นในพิพิธภัณฑ์สักพักก็ออกปั่นต่อผ่านตลาดนัด แวะเข้าไปเดินเล่น ได้ข้าวหลามกระบอกยาวมากระบอกหนึ่ง ปั่นมาถึงสามแยกตัดกับสาย 1029 แวะนั่งพักที่จุดชมวิวท่าเรือเชียงแสน ตรงข้ามสถานีตำรวจ กินข้าวหลามหมดแล้วก็ปั่นเลียบโขงมามาเรื่อยๆ ถนนช่วงที่ออกจากตัวเมืองเชียงแสนกำลังขยายเป็นสี่เลน เครื่องจักรกำลังทำงาน ผิวถนนถูกไถออก เป็นหลุมบ่อ ขรุขระ ต้องปั่นอย่างระมัดระวัง สองข้างทางเป็นทุ่งนา แปลงผัก ที่ดอนเป็นไร่ข้าวโพด ข้ามแม่น้ำกกมาอีกสักพักก็ถึงสามแยกบ้านแซว

แวะพักขาที่ท่าเรือเชียงแสน 

ท่าเรือเชียงแสน จุดข้ามแดนไปฝั่ง สปป.ลาว

เปิดแผนที่เห็นถนนสายย่อยเลียบโขงอ้อมไปตัดกับสายหลัก ทริปนี้ตั้งใจจะปั่นเลียบโขงก็เลยยอมลงจากถนนสายหลักปั่นลัดเลาะลำโขงตามถนนสายย่อยในหมู่บ้าน อาจจะอ้อมสักหน่อย แต่คิดว่าน่าจะได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านมากกว่าสายหลัก  ถนนสาย ชร.4007 สองเลนสภาพพอใช้ พอพ้นเขตหมู่บ้านก็เป็นทุ่งนา และไร่ข้าวโพด ที่ดอนมีสวนยาง สวนสัก และสวนปาล์มบ้างประปราย

เจอป้ายชายหาดริมโขงปั่นตามเข้าไปเจอหาดก๊กโก่ นักพักขากินข้าวห่อที่ญาติให้มา  นั่งพักขาสักหน่อยก็ออกปั่นต่อมาตามถนนสายเดิม ผ่านบ้านหาด้าย แวะเข้าไปแอบผูกเปลนอนพักที่ป่าเห้วข้างถนน นอนหลับไปงีบหนึ่งก็ปั่นต่อผ่าน บ้านดอนที แวะซื้อน้ำและเสบียงมื้อเย็นกันเหนียวไว้ เผื่อต้องนอนข้างทาง

หากก๊กโก่ ท่าเรือขึ้นปลาในหมู่บ้าน


พอพ้นเขตหมู่บ้านออกมาก็มีเนินให้ไต่ขึ้นบ้าง ข้างๆ เป็นแม่น้ำโขงกว้างใหญ่ มีเกาะแก่งกลางน้ำ บางแก่งเห็นเรือลอยลำหาปลา หากเป็นชายหาดลาดๆ ริมโขงจะปลูกข้าวโพด ผัก และยาสูบ  ราวห้าโมงเย็นก็มาตัดกับสาย 1029 แวะที่จุดชมห้วยทรายมาน นั่งพักที่ศาลาชมโค้งแม่น้ำโขง แล้วก็ออกปั่นต่อ เริ่มขึ้นดอยมาสักพักก็เริ่มมืด เปิดไฟหน้าหลังแล้วปั่นหาที่พักมาเรื่อยๆ

ชมโค้งโขง ที่จุดชมวิวห้วยทรายมาน






วันนี้มีอาหารเย็นพร้อมแล้ว ตั้งใจจะหาตูบเฝ้าไร่พักริมน้ำโขง แต่ไม่เจอที่เหมาะๆ ปั่นมาเรื่อยจนเข้าเมืองเชียงของหัวค่ำ นึกขึ้นได้ว่ารุ่นพี่เคยแนะนำเกสต์เฮาส์เล็กๆ น่ารัก ที่เจ้าของก็เป็นนักปั่นทัวริงเหมือนกัน คือ “บ้านตำมิละ” แวะถามชาวบ้านแล้วปั่นลัดเลาะซอกซอยเข้าไปจนเจอ เกสต์เฮาส์เล็กๆ ริมโง ซุกซ่อนอยู่ในดงต้นไม้นานา ร่มรื่น ได้กลิ่นดอกลำโพงหอมเย็น มากับลมเย็นจากน้ำโขง จอดรถเข้าไปติดต่อห้องพักได้ห้องพัดลมคืนละ 400 บ.

อาของเข้าไปเก็บในห้องแล้วออกมาเดินเล่นในเมืองเชียงของ ตระเวนไปในเมืองค่อนข้างเงียบ แต่พอเดินเลียบแม่น้ำโขงก็เห็นแสงสีและเสียงเพลง(ไทย) ดังมาจากเมืองห้วยทรายจากฝั่งตรงข้าม ขากลับแวะซื้อเบียร์ที่เซเว่นกลับมานั่งกินกับข้าวเย็นในห้องพัก

วันนี้ได้ระยะทาง 81.65 กม. ความเร็วเฉลี่ย 16.7 กม./ชม. เวลาปั่น  4.25 ชม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น