![]() |
ไบค์เลนเมืองน่าน |
เมื่อคืนนอนพักผ่อนเต็มที่ เช้านี้ตื่นสาย ล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ไปเอากาแฟที่เกสต์เฮาส์บริการฟรีมานั่งกินแกล้มขนมปังเซเว่นฯ ในห้อง สายๆ ก็ปั่นรถเปล่าออกมาหาข้าวเช้ากิน วันนี้อากาศเย็นสบาย ตั้งใจจะปั่นชิลๆ เที่ยวในเมืองน่าน
เริ่มด้วยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ตั้งอยู่กลางเมือง ข้างวัดภูมินทร์ เดิมเป็น “หอคำ” หรือวังของเจ้าผู้ครองนครน่าน หลังจากเจ้าฯ น่านองค์สุดท้ายถึงแก่พิราลัย บุตรหลานได้มอบให้รัฐบาลใช้เป็นศาลากลางก่อนจะเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ตัวอาคารก่ออิฐถือปูนสองชั้น ชั้นบนแสดงประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานรวมถึงโบราณวัตถุที่พบตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยเจ้าผู้ครองนครน่าน พระพุทธรูปและโบราณวัตถุต่างๆ รวมถึงงาช้างดำ มงคลวัตถุคู่บ้านคู่เมือง ชั้นล่างแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่างๆ รวมทั้งเทศกาลงานประเพณีที่สำคัญๆ
![]() |
กระบอกเกลือไม้ไผ่ลวดงายสวยงาม บอกควาเจริญของวัฒนธรรมเกลือเมืองน่านในอดีต |
ประวัติศาสตร์ของเมืองน่านเริ่มในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 18 โดยพญาภูคานำไพร่พลมาตั้งรกรากที่เมืองย่าง เขต อ.ท่าวังผาปัจจุบัน แล้วขยายขอบเขตออกไป น่านเป็นแหล่งผลิตเกลือที่สำคัญในอดีต ภายหลังได้ผูกสัมพันธ์กับสุโขทัย บางช่วงก็ตกเป็นเมืองขึ้นของพะเยา แพร่ ล้านนา และพม่า ก่อนจะตกเป็นเมืองประเทศราชของสยามในสมัย ร.5 ศิลปวัฒนธรรมโดยเฉพาะวัดวาอารามต่างๆ จึงผสมผสานจากสุโขทัย-ล้านนา-พม่า-รัตนโกสินทร์
น่านมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับอาณาจักรหลวงพระบางและเชียงรุ่ง (สิบสองปันนา) มาตั้งแต่โบราณ ทั้งสามเมืองมีลักษณะวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์บางท่านจึงเรียกว่า “เมือง 3 แฝด”
ปัจจุบันจึงมีนักปั่นรถทัวร์มาเที่ยวน่านแล้วมุ่งหน้าไปหลวงพระบางผ่านด่านห้วยโกร๋นระยะทางประมาณ 150 กม. แล้วต่อสาย R3A มุ่งหน้าสู่คุนหมิงประเทศจีน ไม่แน่ว่ารถทัวร์สองคันที่เจอในเกสต์เฮาส์เมื่อวานอาจกำลังมุ่งหน้าไปทางนั้น รอให้วิชาแกร่งกล้ากว่านี้ผมจะตามไปมั่งนะครัช
![]() |
จิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ |
ได้ข้อมูลเมืองน่านมาเต็มหัว ออกมาก็เลี้ยวเข้าตลาดถนนคนเดินหน้าวัดภูมินทร์ หาน้ำเสาวรสเย็นๆ มานั่งกินในวัด ก่อนจะเข้าไปชมอุโบสถจัตุรมุขศิลปะล้านนา และที่พลาดไม่ได้คือจิตรกรรมฝาผนังศิลปะไทลื้อ โดยเฉพาะภาพสุดป็อป "ปู่ม่านย่ามาน" และภาพวิถีชีวิตคนน่านในอดีต ที่ได้รับการยอมรับว่างดงามประณีตจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่าน ปรากฏในโปสการ์ด เสื้อยืดและของที่ระลึกมากมาย
จากนั้นก็ปั่นไปวัดสวนตาลนมัสการพระศรีอริยเมตไตรยปางนั่งพับเพียบ องค์แรกที่พบใน ภาคเหนือ แล้วปั่นไปชมเจดีย์วัดช้างค้ำที่มีฐานเป็นศิลปะสุโขทัย ตัวเจดีย์ด้านบนศิลปะล้านนา แล้วกลับมาที่วัดหัวข่วง ชมหอธรรมไม้แกะสลักทรงปราสาทสี่เหลี่ยม
![]() |
กาดเปิดใหม่แถวกำแพงเก่าเมืองน่าน |
วันนี้ดูแผนที่คร่าวๆ เห็นวัดอยู่ใกล้ๆ กันก็ปั่นไปเรื่อยๆ แวะไปเรื่อย จนหลงมาเจอตลาดเล็กๆ เพิ่งเปิดใหม่ข้างกำแพงเก่า ซื้อกาแฟเย็นนั่งกินและคุยกับชาวบ้าน
![]() |
เรือนไม้เก่าๆ ในเมืองน่านหลายหลังกำลังถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่พักรองรับนักท่องเที่ยว |
เท่าที่ได้สัมผัส น่านเป็นเมืองเล็กๆ ผู้คนอบอุ่นเป็นมิตร มีประเพณีวัฒนธรรมที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ น่าศึกษา มีวัดวาอารามงามๆ เรือนไม้ ตึกเก่าๆ ดูอบอุ่น ชวนหวนหาอดีต ที่ชอบที่สุดคือ มีไบค์เลนอยู่ทั่วเมือง จึงเห็นเด็กๆ แม่บ้าน แม่อุ๊ย ป้ออุ๊ยปั่นจักรยานอยู่ทั่วไป และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือตามสถานที่สำคัญๆ เช่นวัด พิพิธภัณฑ์ สถานที่ราชการ ก็มีที่จอดจักรยานด้วย ที่นี่จึงนับเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานโดยแท้
![]() |
ที่จอดจักรยานหน้าพิพิธภัณฑ์ฯ น่าน |
หลายเมืองพยายามรณรงค์ให้คนหันมาปั่นจักรยาน ลงทุนสร้างไบค์เลนมหาศาล แต่ดันลืมเรื่องเล็กน้อยที่สำคัญไป คือที่จอดจักรยานอย่างปลอดภัย
![]() |
อุปกรณ์บรรทุกบนหลังม้า บรรพบุรุษของแพเนียร์จักรยาน |
ตอนเย็นหาข้าวกินแล้วกลับห้องพัก เก็บของเตรียมตัวออกเดินทางต่อพรุ่งนี้เช้า พอเบียร์เริ่มตกถึงท้อง สิ่งตกค้างจากพิพิธภัณฑ์ก็เริ่มตกตะกอนในหัว ภาพการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่อพยพไปเรื่อยๆ ตามแหล่งอาหาร พอเริ่มร่อยหรอ เกิดโรคระบาดหรือศัตรูรุกรานก็อพยพไปหาที่ใหม่ๆ สำหรับผมชาวอินเดียนแดง ยิปซี ชาวเลมอแกนคือมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ พวกเขาอพยพไปเรื่อยๆ ไม่นิยมเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ ไม่ถือครองผืนดิน ไม่ครอบครองทรัพย์สินเกินตัว สร้างที่อยู่อาศัยง่ายๆ พร้อมโยกย้ายได้ตลอดเวลา
เป็นไปได้ว่านักเดินทางอาจยังมียีนของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์หลงเหลืออยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น