![]() |
ร่มรื่นต้นไม้ ริมถนนสุนทรวิจิตร เมืองนครพนม |
วันนี้ตื่นเช้ารู้สึกสดชื่น อากาศสดใสไม่มีเค้าฝนหลงเหลือ ได้พักขาวันนึง รู้สึกกำลังวังชาจะกลับคืนมาบ้างแล้ว เก็บของเสร็จลงไปคืนกุญแจ แพ็คกระเป๋ากับรถแล้วออกเดินทาง
![]() |
ตึกเก่าสริมถนนสุนทรวิจิตร |
ย้อนกลับไปถนนสุนทรวิจิตร ปั่นเลียบโขง ชมเมืองนครพนมเก็บตกจากเมื่อวานสักหน่อย ตึกเก่าสไตล์เฟรนช์โคโลเนียล อิทธิพลจากฝรั่งเศสสมัยที่เข้ามายึดครองอินโดจีน ยังคงหลงเหลืออยู่หลายหลัง ตึกเก่าริมโขงหลายๆ เมืองที่ผ่านมาก็น่าจะได้อิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแนวนี้ด้วยเช่นกัน
![]() |
พระแม่มารี หน้าวัดนักบุญอันนา |
ออกปั่นต่อผ่านจวนผู้ว่าหลังเก่า ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่เห็นคนเยอะขี้เกียจเข้าไป ข้างถนนริมโขงช่วงนี้มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ฝั่งริมโขงก็มีทางให้ปั่นจักรยานหรือเดินออกกำลังกาย
ก่อนออกจาเมืองนครพนมแวะร้าน “พรเทพอาหารเช้า” ชื่อก็ชัดเจนอยู่แล้ว สั่งหมูยอทอด แซนด์วิชแกล้มกาแฟ กำลังจะเดินไปจ่ายตังค์ ดันไปเห็นเมนูแปลก “ต้มเส้น” สั่งมาลองอีกชาม เป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว มีวุ้นเส้น เนื้อไก่ โรยหน้าด้วยถั่วงอกลวกและต้นหอมผักชี น้ำใสคล้ายๆ ก๋วยจั๊บญวน อร่อยดี สังเกตว่ามีลูกค้าแวะเข้ามาไม่ขาด
![]() |
หลง(ไหล)ทางในหมู่บ้าน |
ตามถนนเลียบโขงจนออกสายหลัก 212 ปั่นมาเรื่อยๆ เจอหมู่บ้านซ้ายมือแวะเข้าไป ตั้งใจว่าจะหาทางเล็กๆ ในหมู่บ้านปั่นเลียบโขงไปเรื่อยๆ เปิดแผนที่ดูก็ไม่เห็น คิดเอาเองว่าอาจเป็นถนนตกสำรวจ เจอชาวบ้านก็ไม่ได้แวะถาม มือถือก็ยังไม่ได้เปิด 3G ใช้กูเกิลแมพก็ยังใช้ไม่ได้ ด้วยความมั่นใจว่าไปได้แน่ๆ สุดถนนคอนกรีตลงลูกรัง ผ่านหมู่บ้าน ไร่นา ดั้นด้นไปจนสุดทางที่ไร่หอมริมโขง ชาวบ้านบอกทางตัน กำ ! ต้องปั่นกลับทางเดิม
![]() |
บ้านในชนบทอีสาน พบระหว่างหลงทาง |
การหลงทางมั่งไรมั่งก็สนุกดีนะ ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ห่างจากถนนใหญ่ หากเราไม่ปั่นจักรยานหลงเข้ามาก็คงไม่มีโอกาสได้พบเจอ ถือว่าเป็นกำไรของการเดินทาง
![]() |
พระธาตุพนม |
ไปถึงวัดพระธาตุพนมตอนเที่ยง จอดรถแวะเข้าไปกราบพระธาตุ เห็นนักท่องเที่ยวประปราย เดินวนรอบพระธาตุแล้วออกมาด้านนอก มีร้านค้าเรียงรายอยู่รอบวัด เช่นเดียวกับวัดดังอื่นๆ ตามประวัติ พระธาตุแห่งนี้สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200-1400 ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ไดล้มทลายลงมาทั้งองค์ ประชาชนจึงได้ร่วมมือกันบูรณะขึ้นใหม่ตามแบบเดิม โดยย้ายมาสร้างด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากองค์เดิมประมาณ 200 เมตร
![]() |
แวะพักขาตากผ้าที่แก่งคับพวง |
ออกมาหาข้าวเที่ยงกินแถวหน้าวัด แล้วปั่นมาทางสายเลียบโขง นพ. 3015 ถนนสายเล็กเลียบโขงตัดผ่านหมู่บ้าน แวะที่ “แก่งคับพวง” มีเรือลอยลำหาปลาอยู่สองสามลำ ที่มาของชื่อคือเป็นแก่งที่มีปลาชุกชุม จับได้ก็ร้อยเป็นพวงจนคับพวง ถือโอกาสพักขา ตากผ้ากับราวกันริมตลิ่งน้ำโขงเสียเลย แดดลมกำลังดี
![]() |
เรือหาปลาที่แก่งกระเบายามเย็น |
ผ้าแห้งก็เก็บของออกปั่นต่อ ราวสี่โมงเย็นแวะอีกครั้งที่ “แก่งกะเบา” มีร้านอาหารหลายร้านอยู่ริมโขง ที่ขึ้นชื่อคือ “หมูหัน” เดินลงไปริมน้ำโขง มีหินขนาดใหญ่เรียงรายอยู่ริมฝั่ง ข้างๆ มีเรือหาปลาจอดพักอยู่หลายลำ หน้าแล้งน้ำลดมีหาดทราย นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนเล่นน้ำ
ออกปั่นต่อผ่าน “วัดสองคอน” โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่โดดเด่นด้วยอาคารรูปทรงร่วมสมัยสีแดงอิฐ แต่ใกล้ค่ำแล้ว ตั้งใจรีบไปให้ถึงเมืองมุกดาหาร ก็เลยไม่ได้แวะชม สักพักเริ่มมืดต้องเปิดไฟ ปั่นมาเรื่อยๆ ราวทุ่มกว่าๆ มาถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต)
ปั่นเวียนหาที่พักในเมือง จนได้โรงแรมเก่าๆ ราคาถูก คืนละ 350 บ. ท่าทางเหมือนกำลังรอรื้อสร้างใหม่ ข้างล่างเป็นที่จอดรถยนต์ เราต้องแบกจักรยานขึ้นห้องพักชั้นบน แอร์รุ่นโบราณเสียงครางครืนๆ จนต้องปิดแล้วเปิดหน้าต่าง เหนื่อยๆ แบบนี้ขอแค่มีที่ซุกหัวนอนเถอะ หลับเป็นตาย
วันนี้ได้ระยะทาง 131.52 กม. เวลาปั่น 7.31 ชม. ความเร็วเฉลี่ย 17.5 กม./ชม. ความเร็วสูงสุด 34 กม./ชม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น