วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ยกที่ 2 วันที่ 6 (20/11/13) ดอยแม่สลอง-ตีนดอยตุง

หน้าร้านอาหารสนสน ดอยแม่สลอง


เมื่อคืนฝนปรอยเกือบตลอดคืน เช้านี้อากาศเย็นชื้น หมอกหนาลอยเรี่ยยอดดอย แทบไม่เห็นแสงแดด ต้มน้ำกินกาแฟพลางนั่งจดบันทึก เสร็จแล้วเก็บของแพ็ครถ จัดโต๊ะเก้าอี้เข้าที่ ดูลาดเลาแล้วแอบย่องออกจากโรงเตี๊ยมเกือบเก้าโมงเช้า แวะที่ตลาดชาหน้าโรงเรียนบ้านสันติคีรี ซื้อข้าวเหนียวดอยและพวกถั่วงาจากชาวภูเขาเตรียมส่งไปให้แม่อีกชุด แถมหมั่นโถวร้อนๆ อีกสองลูกไว้กินระหว่างทาง

ปั่นมาทาง 1098 ลัดเลาะผ่านย่านชุมชน แวะที่พิพิธภัณฑ์วีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ ประจำประเทศไทย ศึกษาประวัติความเป็นมาของดอยแม่สลอง หลังจากพรรคก๊กมินตั๋งของนายพลเจียงไคเช็คพ่ายแพ้แก่พรรคคอมมิวนิสต์  นายพลเจียงได้ถอยไปตั้งหลักที่ไต้หวัน ส่วนนายพลต้วน ซี เหวิน ได้นำกองพันที่ 5 กองพลที่ 93 แห่งพรรคก๊กมินตั๋งถอยทัพมาอยู่ที่พม่า แล้วถูกกดดันจนอพยพมาที่ดอยแม่สลองในปี 2504  สมัยนั้นแถวนี้ยังเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่น มีปัญหายาเสพติดและอาวุธสงคราม รัฐไทยจึงอาศัยกองพล 93 เป็นกันชนกับชนกลุ่มน้อยอื่นๆ  ช่วงปี 2514-2524  ทหารจีนคณะชาติได้ช่วยกองทัพไทยปราบคอมมิวนิสต์แถวภาคเหนือ รัฐไทยจึงมอบสัญชาติให้ พร้อมส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม โดยเฉพาะชา และผลไม้เมืองหนาว  ปัจจุบันดอยแม่สลองนับเป็นแหล่งผลิตชาขึ้นชื่อ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย

ซุ้มประตูทางเข้า พิพิธภัณฑ์วีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ ประเทศไทย


ออกจากพิพิธภัณฑ์ฯ กลับขึ้นถนนสายหลัก ลัดเลาะผ่านหมู่บ้านมาสักหน่อยก็เริ่มลงดอย ไหลลงมาเรื่อยๆ สองข้างทางคือไร่ชาปลูกเป็นแถวยาวสุดสายตา แวะที่ไร่ชา 101 จอดรถถ่ายรูปด้านหน้า แล้วแวะเข้าไปร้านชาข้างใน ได้ชาอู่หลงเบอร์ 12 ห่อเล็ก ไว้ส่งไปฝากพ่อห่อนึง

ไร่ชา 101 อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเดินชมในแปลงชา


ออกจากไร่ชาก็มีขึ้นเนินลงเนิน บางช่วงชันๆ อัดขึ้นจนแทบหมดแรง แวะพักอีกครั้งที่ศาลาจุดชมวิวข้างทาง นั่งพักขาชมวิวไร่ชาข้างล่างพลาง จิบโอวัลตินแกล้มหมั่นโถวและกล้วยตากเอาแรง  หายเหนื่อยก็ออกปั่นต่อมาทางสาย 1234 ขึ้นลงดอยมาอีกสักพักใหญ่ๆ ถึงแยกบ้านสามแยกแวะนั่งพักที่ศาลาหน้าจุดตรวจ ตำรวจแนะนำทางลัดไปออกแถวดอยตุง ลัดเลาะผ่านหมู่บ้าน ผ่านป่า ถนนบางช่วงยังเป็นลูกรัง ทางเปลี่ยวหน่อยแต่สวย...ได้ฟังแล้วรู้สึกเลือดสูบฉีด เหมือนคาวบอยกระโจนขึ้นหลังม้า กระแทกสเปอร์กระชากบังเหียน...วี้ฮู้ว์ !

มุ่งหน้าไปทางบ้านเทอดไทย


เลี้ยวซ้ายไปทางสาย ชร. 4032 ตามที่ตำรวจบอก ผ่านหมู่บ้านพยายามมองหาร้านอาหารแต่ไม่เจอ เลยแวะซื้อน้ำและขนมตุนไว้แทนข้าวเที่ยง ลงดอยมาหน่อยก็ไต่ขึ้น ถนนลาดยางใหม่ๆ สภาพดี เส้นคม ดอยชันขนาดปั่นเพลินๆ ถนนบางช่วงวิ่งไต่บนสันดอยเห็นวิวได้รอบตัว 360 องศา  เจอแผงขายผักของชาวบ้าน แวะอุดหนุนผักกูดกับพริกดอยเม็ดอวบๆ ที่คนขายเตือนว่าเผ็ดดุ เตรียมไว้เป็นเสบียงมื้อเย็น ออกปั่นต่ออัดขึ้นดอยมาเรื่อยๆ สองข้างทางเป็นไรข้าวโพด และสวนยางพารา

มาถึงปากทางเข้าบ้านห้วยหม้อ ตรงตามพิกัดที่ตำรวจบอกไว้ เลี้ยวขวาลงไปตามถนนคอนกรีตเล็กๆ  ผ่านวัด เข้าหมู่บ้านมาเจอร้านบะหมี่แบบจีน ลักษณะคล้ายหมี่ซั่วเติมน้ำซุปเกือบท่วมราดด้วยถั่วลิสงป่น พริกป่น รสชาติไปทางจืดๆ แต่กลมกล่อม อร่อยดี เลยเบิลอีกชาม  กินอิ่มก็ถามทางอีกครั้ง แม่ค้ายืนยันว่าไปได้ตามที่ตำรวจบอก ค่อยโล่งใจหน่อย  ปั่นออกมาอีกหน่อยก็เจอโบสถ์คริสเล็กๆ  สักพักผ่านทุ่งนาขึ้นดอยก็เจอบ้านชาวภูเขา นับว่าหมู่บ้านนี้ผสมผสานวัฒนธรรมได้หลากหลายมากๆ  จากถนนคอนกรีตกลายเป็นถนนลาดยางผุๆ บางช่วงพังกลายเป็นถนนลูกรัง มีหลุมบ่อ เป็นแอ่งน้ำ บางช่วงถูกน้ำเซาะเป็นร่อง ถนนลัดเลาะแม่น้ำเล็กๆ มาเกือบตลอดทาง การปั่นจักรยานอยู่บนทางเปลี่ยวผ่านป่าร่มครึ้ม ยามได้เจอมอเตอร์ไซค์สวนมาสักคัน ก็รู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด

ผจญภัยบนถนนสายย่อยที่บ้านห้วยหม้อ

มือถือของผมยังไม่ได้เปิดใช้ 3G เปิดกูเกิลแมพไม่ได้ มาถึงทางแยกไหนไม่แน่ใจก็ต้องหยุดรอถามชาวบ้านที่ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมา  ชาวบ้านในป่าอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมให้ความช่วยเหลือนักเดินทางเสมอ แม้แวบแรกจะมองแบบงงๆ สักหน่อยว่า ไอ้หมอนี่มันปั่นจักรยานรุงรังเข้ามาทำอะไรแถวนี้  พอผ่านแยกบ้านสามัคคีเก่าถนนก็ดีขึ้น ปั่นลัดเลาะไหล่เขามาเจอตูบเฝ้านาหลังเล็กน่ารัก เลยแวะพักขากินน้ำ

ราวห้าโมงเย็นก็มาตัดออกที่สาย 1338 เลี้ยวซ้ายไปทางดอยตุง เจอเนินยาวๆ ให้งัดบ้าง พอไปถึงโค้งก็แวะพักกินน้ำที แล้วอัดพักๆ มาเรื่อยๆ จนเริ่มเย็น เห็นป้ายบอกระยะทางอีก 6 กม. ถึง อ.แม่ฟ้าหลวง อีก 16 กม. ถึงดอยตุง แต่สภาพตอนนี้คงไปไม่ถึง เลยมองหาที่พักมาเรื่อย พอผ่านสวนยางมาเจอทางราบก็ได้ยินเสียงน้ำไหลซ่าๆ อยู่ข้างทาง จอดรถแวะลงไปดูลำธารเล็กๆ มีทางมอเตอร์ไซค์ข้ามสะพานเข้าไปตามคันนา มีตูบอยู่กลางนาไกลๆ หันมองดูรอบๆ ก็เจออีกหลังเป็นเพิงเล็กๆ อยู่ในไร่ข้าวบนที่ดอนติดกับสวนยางด้านหลัง ปั่นเข้าไปจอดรถในตูบโทรมๆ มีหลังคาพอาคลุมหัวกันน้ำค้าง ร้านนั่งเป็นฟากไม้ไผ่ทำไว้หยาบๆ พอให้กางเต็นท์ได้

คืนนี้ลักนอนที่ตูบเฝ้าไร่ข้าวโพด (ภาพถ่ายตอนเช้าวันรุ่งขึ้น)


กางเปลเป็นเต็นท์เสร็จก็ ติดเตาหุงข้าวทิ้งไว้แล้วเดินไปอาบน้ำ ซักผ้า กลับมาข้าวเริ่มเดือด พอน้ำเริ่มแห้งก็เบาไฟ ดงข้าวทิ้งไว้ แล้วตั้งกระทะผัดผักกูด ทุบพริกดอยเม็ดอวบๆ ใส่ลงไป ผัดจนหอมก็ดับไฟ เปิดน้ำพริกมาโรยข้าวอีกหน่อย กลายเป็นมื้อเย็นที่เพอเฟคต์มื้อนึงเลย

ก่อนนอนแม่โทรมาถามว่าคืนนี้นอนที่ไหน “รีสอร์ทแถวๆ แม่ฟ้าหลวงแม่” ผมตอบไปอย่างนั้น ;)

วันนี้ได้ระยะทาง 44.8  กม. ความเร็วเฉลี่ย 10.6 กม./ชม. เวลาปั่น 4.11 ชม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น