วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ยกที่ 2 วันที่ 7 (21/11/13) ตีนดอยตุง-แม่สาย

ทางขึ้นที่ว่าการอำเภอและสภานีตำรวจแม่ฟ้าหลวง


ตื่นเจ็ดโมงเช้า ต้มน้ำกินกาแฟอ้อยอิ่งชมหมอกในทุ่งนาสักพัก ก็เก็บของปั่นขึ้นถนนลาดยางสายเดิม 1388 ปั่นออกมาสักหน่อยก็เจอค่ายทหาร จากนั้นก็เริ่มไต่ดอย บางช่วงชันมากๆ จนต้องตัดพับไปพับมาหลายตลบ ใส่จนสุดเกียร์หมดแรงก็หยุดพัก วันนี้แรงยังดี ตั้งใจว่าจะไม่เข็น อาศัยพักบ่อยๆ เอา

พ้นเขตป่ามาหน่อยก็ผ่าหมู่บ้านเล็กๆ อีกสักพักก็มาถึงที่ว่าการอำเภอแม่ฟ้าหลวง ทางเข้าเป็นอิฐตัวหนอนแยกขึ้นเนินไปทางซ้ายมือ ปั่นขึ้นไปเจอสถานีตำรวจอยู่ติดกับที่ว่าการอำเภอ ตั้งอยู่บนเนินเขาด้านหน้ามีจุดชมวิว ร้านอาหาร และจุดกางเต็นท์บริการด้วย นับเป็นสถานีตำรวจ/ที่ว่าการอำเภอที่บรรยากาศโรแมนติกฝุดๆ ไปเลย

ที่จุดชมวิวหน้าที่ว่าการอำเภอ-สถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง


พักขากินน้ำพอหายเหนื่อยก็ขึ้นอานไหลกลับลงมา แล้วไต่ขึ้นดอยอีกสักพักก็ถึงสวนแม่ฟ้าหลวง ที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของคนรักดอกไม้เมืองหนาว ผมเคยมาหลายครั้งแล้ว คราวนี้เลยได้แค่แวะนั่งกินกาแฟที่ร้านดอยตุงข้างนอก แล้วออกมาเดินเล่นที่ตลาดชาวเขา ได้ลูกไหนกับมันดอยต้มไว้กินเล่น แล้วลงไปกินก๋วยเตี๋ยวด้านล่างก่อนจะปั่นออกมามุ่งหน้าไปทางพระธาตุดอยตุง

จอดรถไปกินกาแฟที่ร้านกาแฟดอยตุง


เปิดแผนที่ดูเห็นมีเส้นทางสาย 1149 ไปดอยช้างมูบ แล้วเกาะขอบชายแดนไทย-พม่าไปออกแม่สาย ใช่เลย ถนนสายเล็กๆ นอกสายตาแบบนี้แหละที่ชอบ ถอนสมอ กางใบ กำพังงาให้แน่น ออกเดินทางโลด

ไร่กาแฟในป่าสน ดอยช้างมูบ


ปั่นลัดเลาะขึ้นดอยมาเรื่อยๆ ถนนสภาพดี วิวสวย รถน้อย ผ่านสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดอยตุง แล้วก้เริ่มตะกายดอยชันๆ ข้างทางเป็นป่านสนสามใบร่มครื้ม มีแปลงทดลองปลูกกาแฟใต้โคนสน เจ๋งมากๆ ไม่ต้องโค่นป่า กาแฟก็ขึ้นงาม ไม่รู้ว่ารสชาติจะมีกลิ่นหอมยางสนปนมาบ้างไหม มีโอกาสต้องหามาชิมสักหน่อย  อัดขึ้นดอยต่อมาแวะที่สถูปดอยช้างมูบ เป็นเจดีย์ขนาดเล็กบนก้อนหินขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายช้างหมอบ ต้นไม้ใหญ่รอบๆ มีมอส เฟินเกาะเก่าแก่โบราณลึกลับ

สถูปดอยช้างมูบ

จากนั้นก็เดินเข้าไปชมต้นไม้ในสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง (ดอยช้างมูบ) มีไม้เมืองหนาวให้ชมหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะตระกูลกุหลาบพันปี สักพักก็ปั่นต่อไปถึงฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ มีจุดชมวิวชายแดนไทย-พม่า มีที่กางเต็นท์ให้บริการ

รั้วลวดหนามเสริมไม้ไผ่ของค่ายทหารพม่า ริมถนนสาย 1149  


ทหารที่จุดตรวจขอเปิดกระเป๋าตรวจเสร็จแล้วก็ปั่นเข้าไปสักหน่อยก็เจอค่ายทหารพม่าในรั้วลวดหนามมีไม้ไผ่กั้นแซม พร้อมกระบอกไม้ไผ่ตัดแหลมเป็นแนวรั้วด้านนอกอีกชั้น แวะถ่ายรูปแล้วก็ไหลลงดอย  ถนนสายนี้เลียบชายแดนมาตลอด ผิวลาดยางเล็กแคบ สภาพไม่ค่อยดี เพราะส่วนใหญ่ก็มีแค่ชาวบ้านในพื้นที่ใช้งาน ส่วนใหญ่เป็นทางลง มีให้ไต่ขึ้นบ้างเล็กน้อย ผ่านป่าสน ไร่ข้าวโพด บางช่วงวิ่งบนสันเขา สักพักก็ผ่านบ้านผาฮี้ ทางค่อนข้างชัน คดโค้ง แต่ก็ร่มรื่นวิวสาย ปั่นเพลิน แต่ร่างกายก็เริ่มฟ้อง เริ่มปวดเข่าซ้ายมาสักพัก ข้างขวาก็ปวดใต้ข้อพับ ก้นก็เริ่มระบม ธรรมดา วันก่อนปวดข้างนี้ อีกวันเปลี่ยนท่าก็กลับมาปวดอีกข้าง วนเวียนไปเรื่อย แต่คราวนี้ไม่ได้หักโหมอย่างวันแรกๆ เลยแค่ออกอาการล้าพักสักคืนก็หาย

หมู่บ้านผาหมี  มองเห็นเมืองแม่สายอยู่ด้านล่าง


มาอีกสักพักก็ถึงบ้านผาหมีเริ่มเห็นวิวเมืองแม่สายอยู่ด้านล่าง  ราวห้าโมงครึ่งก็มาถึงตัวเมืองแม่สาย แวะที่ด่านท่าขี้เหล็ก เดินเที่ยวตลาดชายแดนยามเย็นสักพักก็ปั่นไปหาที่พัก เจอสถานีตำรวจก็เข้าไปสำรวจดูเจอสวนหย่อมด้านหลังมีต้นไม้พอกางเต็นท์ได้ ก็เข้าไปขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจอนุญาตให้พัก  ระหว่างนั้นก็โทรหารุ่นพี่ (ที่ผมมางานแต่งทริปนี้) เขากลับไปทำธุระที่ปักษ์ใต้ บอกให้ไปพักที่บ้าน มีแฟนอยู่กับแม่ยาย ผมเลยต้องเก็บของไปลาตำรวจปั่นไปบ้านรุ่นพี่ในหมู่บ้านนอกเมือง ไปถึงเกือบทุ่ม ได้อาบน้ำ ซักผ้า พักขา ได้นอนในบ้าน อุ่นสบาย

ตลาดแม่สาย-ท่าขี้เหล็กยามเย็น


วันนี้ได้ระยะทาง 50.74 กม. ความเร็วเฉลี่ย 10.6 กม./ชม. เวลาปั่น 4.45 ชม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น