วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ยกที่ 3 วันที่ 2 (28/11/13) บ้านแวนโค้ง-ผาสนยักษ์

ทุ่งนาข้างทางสาย 1179 ที่เชียงคำ


ตื่นเช้ากินกาแฟเก็บของเสร็จ เห็นขวดเหล้าเบียร์ ถุงพลาสติกกองระเกะระกะก็เลยเก็บกวาดศาลาซะหน่อย เพื่อเป็นการขอบคุณสถานที่ อย่างน้อยชาวบ้านจะได้รู้สึกว่า การเอื้อเฟื้อให้คนเดินทางไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรือเสียหายอะไร แต่ได้ศาลากลางบ้านสะอาดขึ้น

ก่อนออกเดินทางแวะไปลาสองสามีภรรยาที่ช่วยเหลือเราเมื่อคืน จากนั้นก็แวะซื้อน้ำและขนมตุนเสบียงไว้ ชาวบ้านผ่านมาก็ถามเรื่องการเดินทาง ผมก็คุยกับทุกคนอย่างเป็นกันเอง อยากให้เขารู้จักนักเดินทางแบบนี้ เผื่อว่าคราวหน้ามีใครปั่นจักรยานผ่านมา พวกเขาจะได้ลดความหวาดระแวงลง  แม้การเดินทางจะผ่านพ้นแต่ก็ยังเหลือมิตรภาพไว้ให้รำลึกถึง

เริ่มออกเดินทางราว 9 โมงเช้า ปั่นมาทางสาย 1179 รู้สึกเริ่มล้าจากการอัดขึ้นดอยเมื่อวาน แต่โชคดีช่วงครึ่งแรกวันนี้มีแต่ทางราบ  ผ่านทุ่งนาที่กำลังเก็บเกี่ยว ชาวบ้านช่วยกันเกี่ยวข้าว นวดข้าว พอปั่นจักรยานสวนกันก็โบกมือทักทาย ภาพโรแมนติกแบบไทยชนบทยังพอมีให้เห็นอยู่แถบนี้ จากนั้นก็มีเนินเล็กน้อยพอให้ได้ใช้เกียร์ 1x3-2 ทางราบทำ AV ได้ 15 กม./ชม. ลงเนินอยู่ที่ 30 กม./ชม.

ทุ่งนากำลังเก็บเกี่ยวที่เชียงม่วน




ตอนเช้าอากาศเย็นสบาย สายๆ หน่อยก็เริ่มร้อน พอขึ้นเนิน ทุ่งข้าวก็เปลี่ยนเป็นพืชไร่ มันสำปะหลัง ข้าวโพด สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมันก็เริ่มมีบ้าง บางช่วงผ่านป่าเต็งรังแห้งๆ ก็ร้อนเอาเรื่อง ไม่นานน้ำขวดแรกกลายเป็นเหงื่อชุ่มเสื้อ

ทิวทัศน์ระหว่างทางสาย 1091 อ.ปง
เข้าเขต อ.ปง ตอนเที่ยงๆ แวะกินข้าวแล้วปั่นมาทางสาย 1091 ป้ายบอกระยะทางอีก 100 กม. ถึงน่าน ตอนนี้ปั่นมาได้ราว 30 กม. ถ้าเป็นทางเรียบอาจมีลุ้นถึงน่าน แต่เป็นทางดอยนี่คงไม่ไหว ตั้งใจว่าจะปั่นให้ได้วันละ 100 กม. เดี๋ยวอีก 20 กม.ได้ครึ่งทางแล้วค่อยพักหลบแดด นอนเปลสักงีบ จะได้ถือโอกาสตากเสื้อผ้าด้วย

ปกติหลังปั่นจบแต่ละวันผมจะซักชุดปั่น ตากลมไว้ตลอดคืนจนหมาดๆ แล้วจะตากแดดให้แห้งตอนพักเที่ยง  ชุดปั่นประกอบด้วยเสื้อผ้าแห้งไวแขนสั้นสามตัว ยาวหนึ่ง กางเกงปั่นสอง บ็อกเซอร์ปั่นอีกสอง สลับหมุนเวียนกันไปตลอดทริป ช่วงวันหยุดพักขาก็ถือโอกาสซักชุดนอนและชุดลำลองอื่นๆ

ตอนบ่ายมาเจอป่าเฮ้วบนดอยน้อยๆ รอบๆ เป็นป่าเต็งรังที่ชาวบ้านเว้นไว้เป็นป่าชุมชน อาศัยผูกเปลในศาลาแล้วขึงราวตากผ้า หลับไปชั่วโมงกว่าๆ ตื่นมาผ้าแห้งก็เก็บของออกเดินทางต่อ  ไปถึงเมืองเชียงม่วน ราวสี่โมงเย็น แวะตุนเสบียงที่เซเว่นฯ

ตูบเฝ้านาระหว่างทางสาย 1091 ที่เชียงม่วน


จับสาย 1091 มาเรื่อย ๆ จากทางราบ ถนนก็เริ่มยกตัวขึ้นตามความชันของภูเขา ที่เริ่มเผยตัวขึ้นเป็นปราการขวางกั้นเบื้องหน้า สัญลักษณ์สีเขียวบนป้ายเหล็กสีขาวเขลอะสนิมบอกเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูนางตอกติดต้นไม้ให้เห็นเป็นระยะๆ ข้างถนนเป็นป่าเต็งรัง สูงขึ้นไปเป็นป่าดิบเขา บนยอดเขาเป็นป่าสน  ดอยชัน วิวสวย ถนนดี รถไม่เยอะ บรรยากาศในอุดมคติของนักปั่นทัวริงเลย เสียอย่างเดียวเริ่มหมดแรง ขาเริ่มล้า ก้นกบก็ปวดหนึบๆ  ผมพยายามรักษารอบขาให้ต่อเนื่อง เปลี่ยนเกียร์ลงจนสุด 1x1 ถึงยอดเนินก็หมดแรง หยุดพักกินน้ำ หายเหนื่อยก็ขึ้นอานควงขาตะกายดอยต่อ

มาถึงจุดชมวิว-จุดสกัดป่าสนยักษ์ก่อนแสงสุดท้ายจะลับหาย ด้านหน้ามีป้อมตำรวจ มีห้องน้ำอยู่ข้างๆ ด้านหลังหลังมีลานกว้างเป็นจุดชมวิวเมืองเชียงม่วน เสียอย่างเดียวที่ลมแรงมากๆ ต้องหลบไปผูกเปลที่ต้นไม้ข้างๆ แล้วเอาฟลายชีทคลุมห่อให้มิดชิด เหลือช่องให้ลมเข้าน้อยที่สุด แต่ลมก็พัดตีผ้าใบดังพึ่บพั่บอยู่ตลอด  สักพักเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอด พอเห็นผมจะพักที่นี่เขาเลยอาสาอยู่เป็นเพื่อน

เดิมทีตรงนี้เป็นจุดตรวจของตำรวจ ภายหลังคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ แต่ยังไม่เรียบร้อย เขาเลยขึ้นไปผูกเปลบนศาลาด้านหลังลานชมวิว รับลมเต็มๆ ยิ่งกว่าผมอีก เขาบอกว่า ปกติจะมี จนท.ป่าไม้มาอยู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว นอกจากนั้นก็จะต้องเข้าไปเดินลาดตระเวนตรวจป่าด้านใน  ยิ่งช่วงนี้มีการลักลอบทำไม้หอมกันมาก จึงต้องคอยลาดตระเวนอยู่ตลอด

ผูกเปลเสร็จลงไปอาบน้ำซักผ้า แล้วกลับมาหุงข้าว เปิดปลากระป๋อง โรยน้ำพริกนรก แค่นี้ก็สวรรค์แล้วสำหรับนักปั่นที่กำลังหิวโซและเหนื่อยสุดๆ

สภาพเปลที่นอนเมื่อคืน ลมพัดแรงมาก หนาวสุดๆ (ภาพถ่ายเช้าวันรุ่งขึ้น)


ลมบนยอดดอยพัดกราดเกรี้ยว ความหนาวไม่ต้องมโน เครื่องนอนคืนนี้เลยต้องจัดเต็ม ลองจอนซ้อนเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวซุกในถุงนอนที่รองรับอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส รูดซิปขึ้นสุดแล้วดึงเชือกรูดปิดหน้าเหลือแค่จมูก

ย้อนคิดถึงการเดินทางที่ผ่านมาตลอดวัน ตอนเย็นที่เซเว่นฯ ชายคนหนึ่งเข้ามาคุยด้วย เขาบอกว่าชอบปั่นจักรยานเหมือนกัน พอเห็นผมแล้วอยากออกทริปบ้าง  นึกถึงตัวเองตอนเห็นนักปั่นทัวริงโหลดของพะรุงพะรัง แล้วมันรู้สึกจี้ดๆ ในอกทุกครั้ง  ผมเองก็อาศัยทริปของคนอื่นเป็นแรงบันดาลใจ แล้วหากจักรยานของผมจะมันจะส่งต่อสิ่งนั้นไปให้คนอื่นบ้างก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี

วันนี้ได้ระยะทาง 87.13 กม.  เวลาปั่น 4.52 ชม.  ความเร็วเฉลี่ย 17.9 กม./ชม.  ความเร็วสูงสุด 58.5 กม./ชม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น