วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ยกที่ 2 วันที่ 12 (26/11/13) จบยกที่ 2 พักขาที่แก่งผาได

หนีฝนจากใต้นต้นไม้ริมตลิ่งขึ้นมาอยู่บนศาลา


ลมหนาวที่พัดข้ามโขงมาจากฝั่งลาวแทงทะลุเปลผ้าใบและถุงนอนปลุกให้ตื่นแต่เช้า อาศัยโต๊ะเก้าอี้ม้าหินใต้ต้นไม้ที่ผูกเปล ต้มน้ำร้อนชงกาแฟแกล้มขนมที่ตุนจากร้านชำระหว่างทาง  สักพักท้องฟ้าที่มัวๆ ก็เริ่มปรอยเม็ดฝนลงมา พอเห็นฝนทำท่าจะลงหนัก ก็รีบย้ายแคมป์ขึ้นไปอาศัยศาลาชมวิวข้างบน

บริเวณนี้ อบจ.เชียงรายเข้ามาปรับพื้นที่ จัดสวน สร้างห้องน้ำ ศาลาแปดเหลี่ยมสามสี่หลังกระจายลดหลั่นกันไปตามความลาดชันของพื้นที่  ด้านล่างมีทางเดินลงมาที่ระเบียงริมน้ำโขง และทางลงไปชายหาด ช่วงหน้าแล้งน้ำโขงลดระดับ แก่งหินและหาดทรายเผยตัวขึ้น นักท่องเที่ยวจึงนิยมมากันช่วงนี้ โดยเฉพาะสงกรานต์  คนที่คอยดูแลความเรียบร้อย ตัดแต่งต้นไม้ ทำความสะอาดห้องน้ำก็คือสามีของแม่ครัวร้านอาหาร

ผมมาช่วงหน้าหนาวอย่างนี้นักท่องเที่ยวเลยน้อย เลือกศาลาห่างๆ ออกมาจากลานจอดรถก็ไม่มีใครมาวุ่นวาย จะตากผ้าก็ไม่ประเจิดประเจ้อจนเกินไป  ตลอดทั้งวันจะเห็นนักท่องเที่ยวขี่มอเตอร์ไซค์มาสักสองสามคัน กะรถยนต์อีกสองสามคัน ส่วนใหญ่ก็จะมาชมแก่งผาได เดินลงไปที่ระเบียงริมตลิ่ง แล้วไปกินข้าวที่ร้านอาหารสักพักก็กลับ

วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนทั้งวัน ตอนเที่ยงฝนหยุดแดดออกสักพักหนึ่ง ผมลงไปกินข้าวเที่ยง สั่งกระเพาหมูไข่ดาว อาหารพื้นๆ แม่ครัวใจดีแถมกล้วยให้อีกครึ่งหวี เป็นกล้วยพันธุ์ท้องถิ่น (ผมจำชื่อไม่ได้) ลูกขนาดกล้วยน้ำว้าแต่ผิวเรียบตึง เนื้อละเอียดเหมือนกล้วยไข่ รสชาติคล้ายๆ กล้วยไข่ผสมกล้วยน้ำว้า หอม อร่อยแปลกๆ ดี

เรือหาปลาที่แก่งผาได

ตอนบ่ายนอนเปลเฝ้าดูชีวิตชาวเรือในแม่น้ำโขง รู้สึกว่าช่างเป็นชีวิตที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา เหมือนธรรมชาติของแม่น้ำที่กำเนิดจากหิมะบนยอดเขา ไหลจากที่สูงลงสู่ทะเล ปลาเล็กกินพืช ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ชาวเรือจับปลามากิน ที่เหลือก็ขาย เรียบง่ายเช่นนั้น  อาศัยพึ่งพาชีวิตกับแม่น้ำ แม้เบื้องลึกอาจซับซ้อนกว่าที่เห็น แม้ระหว่างทางของแม่น้ำอาจมีเขื่อนใหญ่ปิดกั้น ก็ไม่อาจกั้นขวางการไหลของแม่น้ำ

คนที่เคยใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในบ้าน มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียบพร้อม ในใจลึกๆ ก็คงมีบ้างที่อยากกระโจนออกมา วางภาระลง หิ้วสัมภาระออกเดินทาง ใช้ชีวิตเรียบง่าย ผูกเปลนอนใต้ต้นไม้ ต้มน้ำ จิบกาแฟ ปล่อยใจให้ลอยไปตามสายน้ำ

วันนี้จบยกที่ 2 ใช้เวลากว่าครึ่งเดือนมาถึงแก่งผาได จุดสุดท้ายของช่วงแรกแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านประเทศไทย พ้นแก่งผาไดแม่น้ำก็ไหลเข้าเขต สปป.ลาว ส่วนผมก็จะเริ่มต้นยกที่ 3 พรุ่งนี้จะเริ่มไต่ดอยจากเชียงราย เฉี่ยวพะเยา ผ่านน่าน ผ่านขอบอุตรดิตถ์ เพื่อจะไปเจอแม่น้ำโขงอีกครั้งที่เชียงคานเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น