![]() |
หน้าแผงขายของป่าชาวภูเขาปากทางเข้าบ้านปางเป๋ย |
ลมพัดแรงตีผ้าใบดังพึ่บพั่บๆ ตลอดคืน หนาวจนนอนแทบไม่หลับ สรุปว่าเครื่องนอนชุดใหญ่เมื่อคืนเอาไม่อยู่ หากเปลี่ยนเป็นเต็นท์อาจหลบลมได้ดีกว่านี้
กินกาแฟ เก็บของ บอกลา จนท.ป่าไม้แล้วออกเดินทางราว 8.30 น. ลงดอยมาได้ไม่ไกลก็ต้องหยุดสวมเสื้อคลุมอีกชั้นเพราะลมแรงและหนาวมาก ป้ายบอกระยะทางอีก 45 กม. ถึงน่าน แต่พอเห็นเทือกเขาสูงชันข้างหน้าก็รู้สึกท้อ อาการปวดขาล้าก้นก็ทำท่าจะหนักขึ้นทันที แต่ถ้าไม่ปั่นก็ไม่มีทางไปถึง จะหยุดอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ ขณะที่ใจเริ่มท้อ ลมเย็นๆ ก็พุ่งปะทะใบหน้าเรียกสติให้กลับคืนมา ปีนขึ้นอานไหลลงดอยต่อ โชคดีช่วงนี้เป็นขาลง เพราะเมื่อคืนพักบนยอดดอย
มาถึง อ.บ้านหลวง จ.น่าน ราว 10 โมง แวะกินข้าวเอาแรง พอรู้ว่าหมู่บ้านถัดไปอยู่อีกไกล เลยซื้อน้ำขวดใหญ่อีกสองขวดตุนไว้ เผื่อคืนนี้ได้นอนกลางป่าอีก
ออกจากบ้านหลวงมาได้สักพักก็เริ่มปีนดอย ขึ้นหนักลงหนัก ใช้เกียร์ต่ำสุดยันสูงสุด ทางชันจนต้องหยุดพักเป็นระยะๆ แต่ไม่ถึงขนาดต้องลงเข็นเหมือนดอยอ่างขาง หยุดแวะที่ร้านขายของป่าชาวภูเขา บริเวณทางแยกเข้าหมู่บ้านปางเป๋ย แม่ค้ากวักมือเรียกทุกเจ้า เพื่อความเป็นธรรม ก็เลยอุดหนุนเกือบทุกเจ้าอย่างละถุงๆ ได้พวกข้าวดอย ถั่ว งา มะแขว่น และลูกชิดไปฝากแม่ รายหนึ่งเสนอสับปะรดดอย ปอกให้พร้อม โอเครจัดมาโลด กำลังร้อนๆ เหนื่อยๆ ร่างกายเรียกหาน้ำตาลพอดี
![]() |
แผงขายพืชผลเกษตรบนดอย ปากทางเข้าบ้านปางเป๋ย |
นั่งกินสับปะรดเพลินๆ ชายคนหนึ่งขับมอเตอร์ไซค์ยางแบน มาถามหาร้านปะยาง เลยใช้สูบจักรยานสูบให้จนตึง Giyo micro floor ได้อวดความสามารถของมันอย่างภาคภูมิ เขาขอบอกขอบใจแล้วรีบบิดลงไปปะยางในหมู่บ้าน ตามคำแนะนำของแม่ค้า
ก้มดูรองเท้าพี่เสือ ครึ่งเดือนกว่ากับระยะทางกว่าพันกิโลฯ ยังไม่เคยงอแง Kenda Khan 26x1.75 ยางไต้หวันงานเวียตนาม ทำหน้าที่ได้เกินราคาจริงๆ รถเปล่าสูบลม 40/45 psi. พอโหลดเต็มที่อัดไป 60/65 psi. ปั่นมันกำลังดี หน้ายางสึกไปจนไม่เหลือรอยตะเข็บ รอยหินบาดประปราย บ่งบอกประสบการณ์ของยาง ส่วนรอยด้านที่แก้มก้นบอกประสบการณ์ของนักปั่น แอร๊ยยย 8-)
ราวบ่ายสองลงมาถึงเชิงดอยแวะกินขนมจีนน้ำเงี้ยวที่บ้านสะเนียน จากนั้นก็เป็นทางราบ อีกชั่วโมงก็เริ่มเข้าตัวเมืองน่าน ปั่นมาตามไบค์เลนจนถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน แวะซื้อข้าวหลามแล้วถามหาที่พักถูกๆ เขาแนะนำ “น่านเกสท์เฮาส์”
ได้ห้องพัดลม เตียงคู่ ห้องน้ำรวมคืนละ 250 บ. ตอนเช็คอินเหลือบไปเห็นจักรยานสองคันจอดอยู่หน้าห้องพักข้างใน ผมเลยขอเอาพี่เสือมาจอดมั่ง แต่เขาไม่อนุญาต อ้าวนี่มันดับเบิลสแตนดาร์ดนี่หว่า แต่ก็ปวดก้นหมดแรงขี้เกียจออกไปหาที่อื่นแล้ว ยอมก็ได้วะ ฝากไว้ก่อนเถอะ
รถทัวร์เทพ เฟรมโครโมลี่จากฝรั่งเศส ดุมปั่นไฟ วีเบรกไฮดรอลิค แร็ค กระเป๋า แฮนด์ และยางจากเยอรมัน ชุดเกียร์อเมริกัน แอ็ดเวนเจอร์ทัวริ่งแบบจัดเต็ม ถ้าเอาพี่เสือไปจอดข้างๆ ทูนหัวของบ่าวคงกลายเป็นลูกแมวตัวน้อยๆ
แม้พี่เสือจะออกอาการงอนนิดหน่อย แต่ก็ยอมให้ล่ามไว้กับต้นไม้ข้างโรงรถ เกิดเป็นเสือต้องนอนใต้ต้นไม้เว้ย ผมตบหลังให้กำลังใจ แล้วหิ้วกระเป๋าคู่หน้า-หลัง บนแร็คพะรุงพะรังเข้าห้องพัก ข้างล่างมีพัดลม 6 ห้อง มีห้องน้ำรวมข้างใน 3 ห้อง ชั้นบทไม่ได้ขึ้นไปดู โดยรวมก็สะดวก สะอาด ปลอดภัยน่าพัก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์
อาบน้ำซักผ้าบิดจนหมาดแล้วแอบขึงเชือกตากในห้อง แล้วเปิดพัดลมเป่า สักพักกลิ่นกาแฟหอมๆ จากคาเฟ่ตรงข้ามก็ลอยมาปะทะจมูก เกิดฆานวิญญาณ นามรูป อายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรามรณะเป็นวงรอบปฏิจจสมุปบาทโดยไม่รู้ตัว สาธุ แล้วทาสนม เอร๊ยย ทาสคาเฟอีนอย่างผมจึงออกไปสั่งอเมริกาโนร้อนๆ จิบพลางนั่งย้อนคิดถึงการเดินทาง
เช้านี้ออกสตาร์ทแบกความรู้สึกเหนื่อยหนักมาเต็มกระเป๋า แต่ลมแรง ทางชันและคมโค้ง ก็เรียกสติกลับมาอยู่กับการควบคุมรถ หลังปั่นออกจากตลาดชาวภูเขา ความงามจากทิวทัศน์สองข้างทางก็ทำให้ปั่นเพลิน ไหลลงดอยมาเรื่อยๆ จนถึงเมืองน่านโดยไม่ทันตั้งตัว
บางทีภูเขาในดวงใจก็ใหญ่กว่าในดวงตา
![]() |
ตลาดสดเทศบาลน่านยามค่ำ |
ตอนค่ำพาพี่เสือออกลาดตระเวนในเมืองน่าน แวะซื้อเสบียงที่ตลาดสดเทศบาลแล้วแวะเซเว่นซื้อเบียร์มานั่งจิบที่ห้องพัก น่านเป็นเมืองเล็กๆ น่ารักที่มีอะไรน่าสนใจเยอะ แค่ผ่านมานอนคืนเดียวคงไม่พอ พรุ่งนี้ขอพักขาแวะเที่ยวในเมืองสักวัน
วันนี้ได้ระยะทาง 58.63 กม. เวลาปั่น 3.30 ชม. ความเร็วเฉลี่ย 16 กม./ชม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น